ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายเมื่อวานอย่างรุนแรงกว่า 80 เหรียญในตลาด Comex โดยเช้านี้ราคาทองคำทำ All Time High ใหม่ ที่ระดับ 3,219 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาอย่างรวดเร็วจาก 2 วันก่อนจากระดับ 34.98 บาทต่อดอลลาร์ ลงมาอยู่ที่ระดับ 33.75 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ เรียกได้ว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วตอบรับต่อการที่ปธน.ทรัมป์ระงับขึ้นภาษี 90 วัน ให้กับ 75 ประเทศที่ไม่ตอบโต้ แต่ขึ้นภาษีจีน 125% ในวันพุธ แต่อัตราภาษีดังกล่าวยังไม่รวมกับที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บภาษีในอัตรา 20% เพื่อลงโทษจีนที่ไม่ได้สกัดการไหลทะลักของยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ขณะนี้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในขณะนี้สูงถึง 145% ขณะที่จีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ ทุกรายการ สูงถึง 84% มีผลแล้วเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ซึ่งทางจีนได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯ กลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า แต่การเจรจาจะต้องมีความเป็นธรรม ไม่ใช่การข่มขู่ และหากสหรัฐฯ ต้องการทำสงครามการค้ากับจีน จีนก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Core CPI m/m, CPI m/m และ CPI y/y ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Unemployment Claims ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ทางด้านเจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกทั่วได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตื่นตระหนกอันเนื่องมาจากการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 100 จุด โดยเมื่อวานเปิดที่ระดับ 102.99 จุด และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 100.70 จุด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 100.91 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 100.04 จุด ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำทะลุ 3,200 เหรียญได้อย่างมั่นคง และค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า และราคาทองไทยขึ้นมาทะลุ 51,000 บาทต่อบาททองคำได้อีกครั้ง และเข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 51,250 บาทต่อบาททองคำ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 12.62 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 949.71 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งจะเห็นอัตราการแกว่งแบบรายวันประมาณ 30-100 เหรียญ โดยราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และเข้าสู่ภาพรวมที่มี Overbought อีกครั้ง โดยใน 3 วันที่ผ่านมา ราคาทองคำขึ้นมาแล้วกว่า 200 เหรียญ ดังนั้นจึงขอให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวัง และควบคุมความเสี่ยงให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาวในสภาวะที่ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้น ก็มีโอกาสที่จะเหวี่ยงลงมาแรงๆ ได้เช่นกัน แนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไร ลดการใช้ Leverage ลง หรือเพิ่มเงินเข้าไปในพอร์ตเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวันหยุดยาว สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,175 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,240 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,205 เหรียญ และแนวต้าน 3,270 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,195 เหรียญ และแนวต้าน 3,260 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 51,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 51,800 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แบ่งปิดสถานะซื้อ เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น