(139).jpg)
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (21 เม.ย.68) พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3,400 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 96.90 ดอลลาร์ หรือ 2.91% ปิดที่ 3,425.30 ดอลลาร์/ออนซ์ รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ที่ดัชนีดอลลาร์ เมื่อคืน ร่วงลง 1.1% แตะที่ระดับ 98.278 ประกอบกับปัจจัยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินหน้าโจมตีเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงความเป็นอิสระของเฟด โดยปธน.ทรัมป์พยายามกดดันให้พาวเวลเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขู่ว่าจะปลดพาวเวลออกจากตำแหน่งหากไม่ยอมทำตามคำเรียกร้อง
เอริก ลอมบาร์ด รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส เตือนว่า ความน่าเชื่อถือของสกุลเงินดอลลาร์จะตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ หากปธน.ทรัมป์ปลดพาวเวลออกจากตำแหน่งประธานเฟด
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยล่าสุด จีนประกาศเตือนประเทศต่าง ๆ ไม่ให้ทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของจีน และหากประเทศใดเลือกแนวทางดังกล่าว จีนก็จะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด
ซิตี้ รีเสิร์ช (Citi Research) ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าขึ้นสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเป้าหมายเดิมที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากมาตรการภาษีศุลกากร นอกจากนี้ คาดว่าราคาทองจะได้ปัจจัยบวกจากการที่บริษัทประกันของจีนเข้าซื้อทองคำ
ซิตี้คาดการณ์ว่า นโยบายล่าสุดของรัฐบาลจีนที่อนุญาตให้บริษัทประกันภัย 10 แห่งสามารถจัดสรรสินทรัพย์ของบริษัทในสัดส่วนสูงถึง 1% เพื่อนำไปลงทุนในทองคำนั้น จะทำให้อุปสงค์ทองคำปรับตัวสูงขึ้น
ข่าวเด่น