
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยมีการดีดกลับหลังจากที่มีแรงเหวี่ยงลงอย่างมากในช่วงค่ำคืนเมื่อวานนี้ โดยราคามีแรงเทขายทำกำไรหลังจากมี Technical rebound ขึ้นไปที่ระดับ 3,367 เหรียญ ก่อนจะร่วงลงมาที่ระดับ 3,305 เหรียญ และปิดที่ระดับ 3,348 เหรียญ เรียกได้ว่าภาพรวมทางด้านเทคนิคราคาทองคำน่าจะสิ้นสุดการปรับฐานแล้ว หลังจากที่ปรับตัวลดลงมามากกว่า 240 เหรียญ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องของการเจรจา โดยจีนออกมาปฏิเสธว่ายังไม่มีการเจรจาใดๆ กับสหรัฐฯ และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมดที่ใช้กับสินค้าจีน ซึ่งจะเห็นได้ว่าภายหลังสหรัฐฯมีท่าทีอ่อนลง และเป็นฝ่ายเสนอการเจรจาก่อน เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวร่วงลง ทำให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องหาเงินเพิ่มในการอัดฉีด เพื่อลดการขาดดุลการค้า ขณะที่ก่อนหน้านี้มีความก้าวร้าว และไม่เป็นมิตรกับจีน ขณะที่ภาพรวมของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Unemployment Claims ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Core Durable Goods Orders m/m และ Existing Home Sales ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Durable Goods Orders m/m ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ สำหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Revised UoM Consumer Sentiment คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 0.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 948.56 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 16.62 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 76.04 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทางเทคนิคเป็นสัญญาณของการกลับตัว โดยราคาทองคำน่าจะอยู่ในช่วงของการค่อยๆ ปรับฐาน โดยในระยะยาวยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ส่วนในระยะสั้นยังเป็นการเคลื่อนตัว Sideways ประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,390 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,350 เหรียญ และแนวต้าน 3,420 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,335 เหรียญ และแนวต้าน 3,405 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 52,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 53,300 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J25 จะมีแนวรับที่ระดับ 52,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 53,600 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้ม “Sideways” ระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ และหลีกเลี่ยงการใช้ leverage มากเกินไป เนื่องจากราคาอาจมีความผันผวน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น