ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนและเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway down ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากภาวะสงคราม โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้เข้ามาร่วมในความขัดแย้งอย่างชัดเจน ด้วยการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านสำเร็จขณะเดียวกันสื่อทางการของอิหร่านรายงานว่า รัฐสภาอิหร่าน เห็นชอบมาตรการปิด “ช่องแคบฮอร์มุช” โดยขั้นตอนจากนี้ต้องจับตาดู การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งจะเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย รวมถึงล่าสุดมีรายงานว่า อิหร่านอินเทอร์เน็ตล่มเกือบทั้งประเทศ หลังโจมตีตอบโต้กับอิสราเอลอย่างหนัก ขณะที่ตลาดซื้อขายเงินคริปโตก็ต้องหยุดทำการ หลังโดนแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอลโจมตี จะเห็นได้ว่าจากปัจจัยความตึงเครียดทางด้านสงครามส่งผลให้ราคาทองคำเปิด GAP ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 3,390 เหรียญ แต่ถูกแรงเทขายกลับลงไปทำต่ำสุดที่ระดับ 3,350 เหรียญ ซึ่งสรุปได้ว่า ภาพรวมราคาทองคำไม่ได้ตอบรับต่อสถานการณ์มากนัก เนื่องจากเป็นความขัดแย้งที่ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อดัชนีดอลลาร์มากนัก โดยเมื่อวันศุกร์ดัชนีดอลลาร์เปิดที่ระดับ 98.67 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 98.53-98.89 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 99.02 จุด การแข็งค่าขึ้นของดัชนีดอลลาร์ส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง โดยเมื่อวันศุกร์ค่าเงินบาทเปิดที่ระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.01 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะร่วงลงประมาณ 80 เหรียญในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาทองไทยได้รับผลกระทบไม่มากนัก โดยราคาทองไทยยังคงอยู่ที่ประมาณ 52,500 บาทต่อบาททองคำ สรุปได้ว่าการปรับตัวขึ้นของราคาทองไทยจึงเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นหลัก ขณะที่ราคาทองตลาดโลกทรงตัว ด้านตัวเลขเศรษฐของสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ ได้แก่ Philly Fed Manufacturing Index ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Flash Manufacturing PMI, Flash Services PMI และ Existing Home Sales คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะชะลอตัวลงเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำทางเทคนิคอยู่ในช่วงของการฟอร์มตัวระหว่างระดับ 3,350-3,400 เหรียญ โดยเป็นการฟอร์มตัวในลักษณะ Sideways โดยมีแนวรับสำคัญระยะสั้นอยู่ที่ 3,350 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับแนวรับ Fibonacci 61.8% ในกราฟ 4 ชั่วโมง ซึ่งหากราคาทองคำหลุดระดับ 3,350 เหรียญ จะมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงไปทดสอบที่ระดับ 3,300 เหรียญได้ ในทางกลับกัน หากราคาทองคำทะลุผ่านแนวต้าน 3,400 เหรียญขึ้นไป จะทำให้ราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาขึ้นที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการฟอร์มตัวที่ยังไม่เสร็จสิ้น โดยมีลักษณะคล้ายกับ "Ascending Triangle" แนะนำให้นักลงทุนรอดูความชัดเจนของทิศทางราคาและบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด ซึ่งคาดว่าราคาทองคำไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 3,300 เหรียญ และ คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงปลายปี สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,350 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,395 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,360 เหรียญ และแนวต้าน 3,405 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,370 เหรียญ และแนวต้าน 3,415 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 52,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 52,900 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M25 จะมีแนวรับที่ระดับ 52,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 53,300 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” รอย่อซื้อมาราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น