ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core CPI m/m ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ CPI m/m ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ CPI y/y และ Empire State Manufacturing Index ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ชี้ให้เห็นว่าภาวะเงินเฟ้อเริ่มเข้ามากดดันตลาดอย่างชัดเจน หลังจากมาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์เริ่มส่งผลในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดดอกเบี้ยในปีนี้น่าจะเข้าใกล้ศูนย์ และมีโอกาสที่จะเห็นภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นอีกในเดือนหน้า รวมถึงวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core PPI m/m และ PPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม นั่นหมายความว่า ภาวะเงินเฟ้อกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างชัดเจนทั้งในภาคค้าปลีกและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้นในทิศทางทรงตัวหรือเป็นขาลงเล็กน้อย ขณะที่ในระยะยาวเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะชะงักงัน (stagflation) เนื่องจากไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ ซึ่งน่าจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว เนื่องจากจะเกิดการเสื่อมค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และหนี้สินของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น จึงวิเคราะห์ได้ว่าในช่วง 1 เดือนข้างหน้านี้ ราคาทองคำน่าจะยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานเช่นเดิม โดยมีแนวรับหลักที่บริเวณ 3,300 เหรียญ และแนวรับหลักระยะสั้นของทองไทยที่ระดับ 50,800 บาทต่อบาททองคำ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 947.64 ตัน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ 98.13 จุด และเคลื่อนไหวระหว่าง 97.93-98.69 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 98.58 จุด ซึ่งคาดการณ์ว่าดัชนีดอลลาร์ในระยะต่อไปน่าจะขึ้นไปชนแนวต้านหลักที่ระดับ 99 จุด ก่อนจะปรับตัวลดลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 3,350 เหรียญได้อย่างมั่นคง ทำให้ภาพหลักของราคาทองคำกลับเข้าสู่แนวโน้ม Sideways อีกครั้ง และยังคงหาความชัดเจนต่อไปไม่ได้ สำหรับวันนี้ แนะนำให้รอดูสถานการณ์ โดยมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,350 เหรียญ หากราคาทองคำมีการย่อตัวลงมาแนะนำให้เข้าซื้อตั้งแต่ 3,320 เหรียญลงไป
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,360 เหรียญ และแนวต้าน 3,390 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,330 เหรียญ และแนวต้าน 3,360 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 52,100 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” รอย่อซื้อมาราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น