ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (23 ก.ค.68) บวก 12.27 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,204.02 จุด


ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (23 ก.ค.68) ดัชนีอยู่ที่ 1,204.02 จุด บวก 12.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,604.87 ล้านบาท

บล.พาย ระบุ ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 179 จุด +0.4% ส่วน S&P500 ขยับขึ้นเล็กน้อยทั้งนี้นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับผลประกอบการที่ทยอยประกาศ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.9% ท่ามกลางความคาดหวังที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการบรรลุการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ EU ซึ่งอาจกดดันอุปสงค์

เมื่อคืนที่ผ่านมาฝั่งสหรัฐฯ ไม่ได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประกาศออกมา ทำให้การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆค่อนข้างทรงตัวไม่ว่าจะเป็น Bond Yield, ตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงปรับขึ้น ปัจจัยหนุนหลักจากการอ่อนค่าของ Dollar Index 

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศพบข้อมูลล่าสุดคือ ทรัมป์ได้ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับทางฟิลิปปินส์ โดยฟิลิปปินส์จะยอมให้สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ปลอดภาษี แลกกับการที่สหรัฐฯจะคิดภาษีนำเข้าจากฟิลิปปินส์ในอัตรา 19% นอกจากนี้ยังพร้อมจะร่วมมือกันทางทหารและล่าสุดเช้านี้ได้ประกาศข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่กับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นจะลงทุนในสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศให้ค้าขายรวมถึงรถยนต์และรถบรรทุก โดยญี่ปุ่นจะยอมจ่ายภาษีอัตรา 15% ให้กับสหรัฐฯ

ส่วนประเทศไทยยังคงรอความคืบหน้า ข้อมูลล่าสุดระบุว่าในวันนี้จะทำการยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้สหรัฐฯพิจารณา ทางรัฐมนตรีคลังเชื่อว่าไทยจะได้ปรับลดภาษีจากระดับ 36% มาอยู่ในอัตราใกล้เคียงกับภูมิภาค 

สำหรับผลประชุมครม.วานนี้ พบว่าได้แต่งตั้งคุณวิทัยขึ้นดำรงค์ตำแหน่งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะเริ่มทำงานในช่วง 1 ต.ค. จากการให้ข้อมูลช่วงที่ผ่านมาของคุณวิทัย มักเสนอแนวคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยควรทำงานควบคู่กับหลายๆ หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง ตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับนโยบายเน้นแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนึ่งในนั้นคือการลดดอกเบี้ยเงินกู้ เน้นการตัดเงินต้นมากขึ้น แม้การลดดอกเบี้ยที่คุณวิทัยมักหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในมาตรการ ซึ่งอาจเป็นบวกกับกลุ่มการเงิน 

แต่อย่างไรก็ตามในอีกนัยยะหนึ่งอาจเห็นการเข้าไปควบคุมมากขึ้นเกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ของกลุ่ม Non Bank อนึ่งราคาหุ้นในกลุ่ม Non Bank ก็ปรับขึ้นมา 11% จากจุดต่ำสุดนับว่า Price In ไปบ้าง จึงอาจไม่ถึงกับบวกกับหุ้น Non Bank มากเท่าใดนัก แต่หากหนี้ครัวเรือนแก้ปัญหาได้สำเร็จมองกลุ่มอิงการบริโภครับประโยชน์ CPALL BJC CRC HMPRO รวมไปถึงอสังหา AP SPALI นอกจากนี้ด้วยนโยบายการเงินอาจผ่อนคลายมากขึ้นจะหนุนให้บาทอ่อนค่า ซึ่งบวกกับกลุ่มส่งออก (ITC TU) 

ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดหมายไว้ที่ 4 ล้านหลังคาเรือน 

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1180 – 1200 จุด อาจเห็นการฟื้นตัวระยะสั้นบ้างจากวานนี้ปรับฐานลงมาแต่ก็ยังเชื่อว่า Upside จำกัด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเป็นเพียงการ Trading ระยะสั้นและยังไม่แนะนักลงทุนระยะกลางสะสม หุ้นแนะนำระยะสั้นได้แก่กลุ่มโรงพยาบาล BDMS ธนาคารที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ SCB กลุ่มค้าปลีก BJC CRC CPALL HMPRO อสังหาฯ AP SPALI

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ก.ค. 2568 เวลา : 10:41:23

01-08-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ August 1, 2025, 1:20 am