ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 หลังจากที่ราคารับรู้ข่าวเรื่องสงครามและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 3,439 เหรียญ ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรกลับลงมา หลังจากที่ตลาดกลับมาให้ความสำคัญกับสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นในตลาดหุ้น โดยเน้นการเจรจาการค้าที่บรรลุผลสำเร็จภายในสิ้นเดือนนี้ และมีการประกาศใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งหมายความว่า สหรัฐฯ สามารถเป็นผู้กำหนดทิศทางของภาษีศุลกากร โดยปราศจากการตอบโต้จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก และยังได้ผลประโยชน์หลักจากการเจรจาที่หลายประเทศกลับต้องงดเก็บภาษีเป็นศูนย์ให้กับสินค้าสหรัฐฯ ดังนั้นภาพรวมทำให้ตลาดกลับมาโฟกัสเรื่องความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้สหรัฐฯ สามารถมีรายรับเข้าประเทศได้มากขึ้น และทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 97.57 จุด และขึ้นไปทำสูงสุดที่ระดับ 98.68 จุด และปิดที่ระดับ 98.66 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 98.62 จุด โดยดัชนีดอลลาร์ทำจุดสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระดับ 98.95 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ได้รับผลประโยชน์อย่างดีจากการบรรลุเป้าหมายทางการค้าในขณะนี้ ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำ โดยราคาทองคำในช่วงวันศุกร์ร่วงต่อเนื่องปิดที่ระดับ 3,337 เหรียญ และเมื่อวานนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 3,301 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับมาปิดที่ระดับ 3,314 เหรียญ จะเห็นถึงแรงเทขายทำกำไรในทองคำ ทำให้ภาพรวมราคาทองคำยังคงไร้ทิศทางและแกว่งตัวในกรอบกว้างระหว่าง 3,300-3,350 เหรียญเช่นเดิม และราคาทองไทยจะมีกรอบ Sideways กว้างๆ ระหว่าง 50,700-51,300 บาทต่อบาททองคำ ดังนั้นจะเห็นถึงความไม่แน่นอนในทิศทางของราคาทองคำ ขณะเดียวกันผลสำรวจ Kitco News Gold Survey ประจำสัปดาห์นี้ ชี้ให้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญใน Wall Street ส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในทิศทางของราคาทองคำ หลังจากที่ราคาไม่สามารถทะลุกรอบที่คาดไว้ได้ มีเพียง(14%) ที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่ (36%) มองว่าราคาจะลดลง และนักวิเคราะห์ที่เหลืออีก (50%) คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 0.86 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 956.23 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มของการเคลื่อนตัว Sideways ในกรอบกว้างระหว่าง 3,300-3,360 เหรียญ ยังคงแนะนำให้จับตาดูการเคลื่อนไหวอีกครั้งเพื่อติดตามทิศทางที่ชัดเจน โดยถ้าราคาไม่หลุด 3,300 เหรียญ ยังเชื่อว่าราคาทองคำน่าจะสามารถวิ่งกลับขึ้นไปได้ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,300 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,340 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,335 เหรียญ และแนวต้าน 3,375 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,305 เหรียญ และแนวต้าน 3,345 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 51,800 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” รอย่อซื้อมาราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น