ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 3,500 เหรียญ และทำจุดสูงสุดใหม่ (All-time high) ที่ระดับ 3,547 เหรียญได้สำเร็จ โดยมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากราคาทองคำได้ทะลุระดับดังกล่าว ซึ่งเป็นการยืนยันถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งของราคาทองคำ ขณะที่ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 12.88 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 990.56 ตัน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาอ่อนแอลงเล็กน้อย ได้แก่ ISM Manufacturing PMI และ ISM Manufacturing Prices ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ และต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึง ภาวะเศรษฐกิจภาคการผลิตที่หดตัวหรือถดถอย ในขณะเดียวกันตลาดโดยรวมยังคงกังวลกับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงความกังวลในตลาดหุ้นต่อการตัดสินของศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐฯ ที่มีมติ 7 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยว่าภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของปธน.ทรัมป์นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเพียงสภาคองเกรสเท่านั้นที่มีอำนาจในการกำหนดการจัดเก็บภาษีในวงกว้าง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ระบุว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวมีสาเหตุทางการเมือง และเขาจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ตลาดทองคำไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยนี้มากนัก สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ JOLTS Job Openings ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ในส่วนของราคาน้ำมันยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 65.59 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ Bloomberg ออกมาชี้ว่าการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก มีสัดส่วนมูลค่ามากกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996 โดยสัดส่วนการถือทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกพุ่งแตะ 27% ของทุนสำรองต่างประเทศ ขณะที่สัดส่วนการถือพันธบัตรสหรัฐ (US Treasuries) ลดลงเหลือแค่ 23% ต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงิน 2008 ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 97.64 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 97.62-98.59 จุด ขณะที่เช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 98.46 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทยังทรงตัวได้และกลับมาอยู่ที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ และทำให้ราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการที่ค่าเงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นเท่าไรนัก ทำให้ราคาทองไทยขึ้นมาอยู่ที่ 54,150 บาทต่อบาททองคำในเช้านี้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่ภาวะแนวโน้มขาขึ้น และสามารถทะลุจุดสูงสุดเดิมขึ้นมาได้ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,520 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,555 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,535 เหรียญ และแนวต้าน 3,570 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,590 เหรียญ และแนวต้าน 3,625 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 53,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 54,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V25 จะมีแนวรับที่ระดับ 54,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 55,000 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แบ่งปิดสถานะซื้อ เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น