(213).jpg)
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (22 ก.ย.68) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 69.3 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 3,775.10 ดอลลาร์/ออนซ์ รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์
นักวิเคราะห์อาวุโส Kitco Metals กล่าวว่า นักลงทุนยังคงต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และส่งสัญญาณว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้
คณะกรรมการเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายสิ้นปีนี้
สตีเฟน มิแรน หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดได้แสดงความเห็นในวันจันทร์ว่า นโยบายการเงินของเฟดในขณะนี้ถือเป็นระดับที่เข้มงวดแล้ว พร้อมกับกล่าวว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มิแรนเป็นกรรมการเฟดที่โหวตสวนมติในที่ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยการสนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5%
นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Greater Providence Chamber of Commerce (GPCC) ในวันนี้ (23 ก.ย.) เวลา 12.35 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.35 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนส.ค. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ข่าวเด่น