ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (1 ต.ค.68) บวก 43.21 จุด นักลงทุนเมินชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ


 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ต.ค.68) บวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 46,441.10 จุด เพิ่มขึ้น 43.21 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,711.20 จุด เพิ่มขึ้น 22.74 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,755.16 จุด เพิ่มขึ้น 95.15 จุด หรือ +0.42% รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ขณะที่นักลงทุนมองข้ามการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่อ่อนแอเกินคาด

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีเปิดตลาดอ่อนแรงลงในช่วงแรก หลังจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ในวันพุธ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลหลีกเลี่ยงการถูกชัตดาวน์

แต่ดัชนีดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันอังคาร หลังจากมีรายงานว่าบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน โดยที่ไฟเซอร์ตกลงที่จะปรับลดราคายาตามใบสั่งแพทย์ในโครงการ Medicaid ให้ต่ำลงเมื่อเทียบกับราคาที่ขายในประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อแลกกับการผ่อนปรนภาษีศุลกากร โดยปธน.ทรัมป์คาดหวังว่าบริษัทยารายอื่น ๆ จะดำเนินการตามไฟเซอร์

ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ในดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 3.01% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 นำโดยหุ้นไบโอเจน (Biogen) ทะยานขึ้น 10.9% และหุ้นเทอร์โม ฟิชเชอร์ (Thermo Fisher) พุ่งขึ้น 9.4% ส่วนหุ้นไฟเซอร์พุ่งขึ้น 6.8%

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทำผลงานได้ดีเช่นกัน นำโดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ทะยานขึ้น 8.9% ขณะที่ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ดีดตัวขึ้น 2%

นักวิเคราะห์จากบริษัท Janus Henderson Investors กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดในวันพุธ และคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีก หลังจากที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ในปีนี้

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์รายดังกล่าวยังตั้งข้อสังเกตว่านักลงทุนในตลาดมองข้ามข่าวการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากสถิติในอดีตที่ผ่านมาพบว่า ตลาดยังคงมีความยืดหยุ่นแม้ในช่วงที่เกิดการชัตดาวน์ โดยข้อมูลจากดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) ระบุว่า ดัชนี S&P500 สามารถปรับตัวขึ้นเมื่อครั้งที่หน่วยงานของรัฐบาลถูกชัตดาวน์ในช่วงปลายปี 2561 จนถึงต้นปี 2562

การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลอาจส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ต้องเลื่อนการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ออกไปจากกำหนดเดิมในวันศุกร์ที่ 3 ต.ค. นักลงทุนจึงหันมาให้ความสนใจข้อมูลแรงงานจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP)

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 ต.ค. 2568 เวลา : 10:13:27

03-10-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 3, 2025, 5:47 am