.jpg)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเริ่มทรงตัวบริเวณ 4,130 เหรียญ หลังจากที่เมื่อวานนี้มีแรงเทขายทำกำไรกดดันราคาปรับลดลงไปแตะที่ระดับ 4,105 เหรียญ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ โดยภาพรวมเชิงเทคนิค เป็นการบ่งชี้ว่าการขึ้นครั้งนี้เป็นสัญญาณของการเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
ด้านปัจจัยพื้นฐาน ตลาดกำลังให้ความคาดหวังว่าสถานการณ์การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ จะยุติลง ซึ่งจะส่งผลให้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญออกมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ตัวเลขภาคเอกชนส่วนใหญ่ออกมาในทิศทางที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธันวาคม ในส่วนของประเด็นทางการเมืองที่ต้องติดตาม คือการตัดสินของศาลสหรัฐฯ ต่อกรณีการใช้อำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยศาลยังคงมีน้ำหนักว่าทรัมป์มีโอกาสที่จะแพ้คดีนี้ ซึ่งทรัมป์เองได้ออกมาเตือนว่า หากศาลสูงสุดตัดสินว่าภาษีศุลกากรนั้นผิดกฎหมาย สหรัฐฯ อาจต้องจ่ายคืนเงินสูงถึงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาชี้ว่าเป็น "ภัยพิบัติด้านความมั่นคงของชาติ" ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจจากประเด็นนี้จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่การเคลื่อนไหวของตลาดเงิน พบว่าดัชนีดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยปรับตัวลดลงจาก 99.6 จุด มาอยู่ที่ระดับ 99.5 จุด ในขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าลงจาก 32.35 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์
ด้านกองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,046.36 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 6.01 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 172.98 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำในตลาดโลกได้สร้างฐานราคาสำเร็จบริเวณ 4,000 เหรียญ ซึ่งสอดคล้องกับราคาทองคำในประเทศที่สร้างฐานที่ 61,000 บาท ต่อบาททองคำ ซึ่งในปัจจุบันราคาทองคำได้กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน และกลับขึ้นมาทรงตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่สำคัญได้สำเร็จ นอกจากนี้ สัญญาณทางเทคนิค (Indicators) ต่างๆ ยังคงบ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่เป็นบวกและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,070-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,150-4,200 เหรียญ ขณะที่ทองไทยจะมีแนวรับที่ 63,000 บาท และแนวต้านที่ 63,800 บาท
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 4,130 เหรียญ และแนวต้าน 4,180 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 4,110 เหรียญ และแนวต้าน 4,160 เหรียญ Gold Futures Series V25 จะมีแนวรับที่ระดับ 63,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 64,200 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบตามแนวโน้ม “Sideway Up” รอย่อซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น