ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง


ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันวันที่ 2 ที่ 48,254.82 จุด เพิ่มขึ้น 326.86 จุด หรือ +0.68% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,850.92 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.06% ขานรับความหวังการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ จะสิ้นสุดลง ส่วน ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ ที่ 23,406.46 จุด ลดลง 61.84 จุด หรือ -0.26% เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันนี้ (13 พ.ย.) ตามเวลาไทย เพื่อยุติการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะทำให้รัฐบาลมีเงินทุนสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่หยุดชะงักไปก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงโครงการอาหารและระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ตลอดจนสามารถจ่ายเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหลายแสนคน

ทั้งนี้ หากสภาผู้แทนราษฎรลงมติอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดย หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 1.36% ตามด้วย หุ้นกลุ่มการเงิน ปรับตัวขึ้น 0.9% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ร่วงลง 1.42% และ 1.18% ตามลำดับ

หุ้น Goldman Sachs ทะยานขึ้น 3.5%, หุ้น JPMorgan ดีดตัวขึ้น 1.4% และหุ้น UnitedHealth Group พุ่งขึ้น 3.5% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์วันที่ 2

นักวิเคราะห์จากบริษัท Northwestern Mutual กล่าวว่า ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนหมุนเวียนการลงทุนออกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไปยังหุ้นที่ทำผลงานได้ดีกว่า เช่น หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์แคร์ และกลุ่มการเงิน โดยหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงนั้น รวมถึงหุ้น Amazon ร่วงลง 1.9%, หุ้น Tesla ดิ่งลง 2% และหุ้น Palantir ร่วงลง 3.5%

การที่ SoftBank Group ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของญี่ปุ่น ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ มูลค่า 5.83 พันล้านดอลลาร์นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากระแสการตอบรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจถึงจุดอิ่มตัวแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมีคำเตือนจากบรรดาผู้บริหารของธนาคารในวอลล์สตรีท

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัท Nvidia ในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินว่าธุรกิจ AI ยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งหรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังมีรายงานว่า ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อครบวาระในเดือนก.พ.ปีหน้า ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามเข้ามามีอิทธิพลในองค์กรเฟดมากขึ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมธนาคารเพื่อการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 6% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้นก็ตาม โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 806,500 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 6.34% ในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 6.31% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 พ.ย. 2568 เวลา : 11:10:07

13-11-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 13, 2025, 1:48 pm