(225)(327).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (11 ธ.ค.68)ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,704.01 จุด เพิ่มขึ้น 646.26 จุด หรือ +1.34%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,901.00 จุด เพิ่มขึ้น 14.32 จุด หรือ +0.21% หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในวันข้างหน้า แต่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ ที่ 23,593.86 จุด ลดลง 60.30 จุด หรือ -0.25% ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของออราเคิล (Oracle) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ
เฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.) ตามคาด ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2569 และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2570 ซึ่งสอดคล้องกับการส่งสัญญาณในการประชุมเดือนก.ย.
ด้านเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวภายหลังการประชุมว่า นโยบายการเงินของเฟดอยู่ในสถานะที่เหมาะสมในการตอบสนองต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในวันข้างหน้า พร้อมกับเตือนว่าตลาดแรงงานมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลงและเฟดไม่ต้องการให้นโยบายการเงินฉุดรั้งการสร้างงาน นอกจากนี้ พาวเวลกล่าวว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น แต่เขายังคงเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อเพียงชั่วคราว
นักวิเคราะห์จากบริษัท Siebert Financial กล่าวว่า ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากผลการประชุมเฟด ขณะเดียวกันการแสดงความเห็นของพาวเวลยังทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าถ้อยแถลงของพาวเวลจะส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินที่แข็งกร้าว และเป็นที่น่าสังเกตว่าเฟดกำลังจับตาภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ ภาพความอ่อนแอของตลาดแรงงานปรากฎให้เห็นชัดขึ้น เมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 44,000 ราย สู่ระดับ 236,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 223,000 ราย
หุ้นกลุ่มการเงินในดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้น Visa ทะยานขึ้น 6.1% ขณะที่หุ้น American Express พุ่งขึ้น 2.48% ส่วนหุ้น JP Morgan และหุ้น Goldman Sachs ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2%
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มวัสดุพุ่งขึ้น 2.23% ตามด้วยหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 1.84% ส่วนหุ้นบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.01% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 0.5%
ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจาก Oracle เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด และเตือนว่าบริษัทอาจมีการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายนี้อาจเผชิญปัญหาหนี้สิน
ทั้งนี้ หุ้น Oracle ร่วงลงตลอดทั้งวันหลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง และปิดตลาดดิ่งลง 10.95%
หุ้น Broadcom ปิดตลาดลดลง 1.6% แต่ราคาหุ้นดีดตัวขึ้น 4% ในการซื้อขายหลังตลาดปิดทำการ หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาสปัจจุบันที่ระดับ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.827 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้น Walt Disney พุ่งขึ้น 2.4% หลังประกาศการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในบริษัท OpenAI
ข่าวเด่น