(225)(328).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (15 ธ.ค.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,416.56 จุด ลดลง 41.49 จุด หรือ -0.09%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,816.51 จุด ลดลง 10.90 จุด หรือ -0.16% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,057.41 จุด ลดลง 137.76 จุด หรือ -0.59%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ และการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์จากบริษัท BMO Family Office กล่าวว่า นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อประเมินว่าข้อมูลเหล่านี้จะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.และพ.ย. ในวันนี้ (16 ธ.ค.) และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค. นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายรายการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีก, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global
นักลงทุนประเมินรายงานข่าวที่ว่า การเสนอชื่อเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่นั้น กำลังเผชิญกับแรงต้านจากบุคคลที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้ในช่วงที่ผ่านมา แฮสเซตต์ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก ถือเป็นตัวเก็งที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะครบวาระในเดือนพ.ค.ปีหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนยังประเมินความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้นโยบายการเงินของเฟดอยู่ในสถานะที่ดี ขณะที่สตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนถึงพลวัตของอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริง
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์พุ่งขึ้น 1.27% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น 0.88% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.04% ตามด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.76%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น IRobot ผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์ “รูมบา” (Roomba) ทรุดตัวลง 72.7% หลังจากบริษัทยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย
หุ้น ServiceNow ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ร่วงลง 11.5% หลังมีรายงานว่าทางบริษัทกำลังเจรจาซื้อกิจการสตาร์ตอัป Armis
ส่วนหุ้น Tesla ดีดตัวขึ้น 3.5% หลังจากอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า Tesla กำลังทำการทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxis)
ข่าวเด่น