ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (16 ธ.ค.68) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 4,332.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังราคาพุ่งขึ้นในระหว่างวัน ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 64,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.58% ในปีหน้า ซึ่งมากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีหน้า นักวิเคราะห์จาก Allegiance Gold คาดการณ์ว่า หากราคาทองคำปิดฉากปี 2568 ที่เหนือระดับ 4,400 ดอลลาร์ ก็มีความเป็นไปได้ว่าราคาจะพุ่งขึ้นสู่กรอบ 4,859-5,590 ในปี 2569 นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าในการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยล่าสุดหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ปธน.ทรัมป์จะทำการสัมภาษณ์คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดในวันนี้ (17 ธ.ค.) เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการทำหน้าที่ประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะหมดวาระในเดือนพ.ค.ปีหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บุคคลที่ใกล้ชิดกับปธน.ทรัมป์ได้แสดงท่าทีต่อต้านการเสนอชื่อเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้ (18 ธ.ค.) ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่จะเผยแพร่ในวันที่ 10 ธ.ค. ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการเผยแพร่ดัชนี CPI ประจำเดือนต.ค. ซึ่งเดิมมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 7 พ.ย. เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลทำให้ทางกระทรวงไม่สามารถเก็บข้อมูลย้อนหลังได้
ข่าวเด่น