ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (22 ธ.ค.68) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 82.10 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 4,469.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีรายงานว่าหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ พยายามไล่ล่าเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าเรือลำนี้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายลักลอบขนส่งน้ำมันที่ผิดกฎหมายของเวเนซุเอลา โดยหากจับกุมสำเร็จ เรือลำนี้จะนับเป็นเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลาลำที่ 3 ที่สหรัฐฯ ยึดได้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ พยายามยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีคำสั่งให้ปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมดที่ถูกคว่ำบาตร ไม่ให้เดินทางเข้าและออกจากเวเนซุเอลา
ราคาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ปธน.ทรัมป์อาจเสนอชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ภายในต้นเดือนมกราคม เพื่อทำหน้าที่แทนเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะหมดวาระในช่วงกลางปี 2569 โดยนักลงทุนติดตามการเลือกประธานเฟดคนใหม่อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความหวังที่ว่าประธานเฟดคนใหม่อาจมีความเห็นที่สอดคล้องกับปธน.ทรัมป์ที่พยายามผลักดันให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มักจะปรับตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงเวลาที่สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 69% โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลาง และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง
นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้ (23 ธ.ค.) จะมีการเปิดเผยตัวเลขการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
(259).jpg)
ข่าวเด่น