(225)(335).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 ธ.ค.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 48,461.93 จุด ลดลง 249.04 จุด หรือ -0.51%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,905.74 จุด ลดลง 24.20 จุด หรือ -0.35% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,474.35 จุด ลดลง 118.75 จุด หรือ -0.50%
เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นปัจจัยฉุดตลาด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเริ่มต้นสัปดาห์สุดท้ายของปี 2568 ด้วยทิศทางที่อ่อนแอลงเนื่องจากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยหุ้น Nvidia ปรับตัวลง 1.2% และหุ้น Palantir Technologies ร่วงลง 2.4% หุ้น Oracle ร่วงลง 1.3%
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มวัสดุและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง 0.96% และ 0.95% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 0.95% หลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น 0.23%
หุ้น Tesla ร่วงลง 3.3% และเป็นปัจจัยฉุดกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะที่กลุ่มวัสดุถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทเหมืองโลหะมีค่า หลังจากราคาโลหะเงินดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรก ส่วนราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงหลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยหุ้น Citigroup ปิดตลาดร่วงลง 1.9% หุ้น JPMorgan ลดลง 1.3% หุ้น Bank of America ดิ่งลง 1.5% และหุ้น Morgan Stanley ปรับตัวลง 1%
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงคาดหวังปรากฎการณ์ “ซานตาคลอสแรลลี่” (Santa Claus Rally) โดยข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac ระบุว่า Santa Claus Rally เป็นปรากฏการณ์ตามฤดูกาลที่ดัชนี S&P500 จะปรับตัวขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปี และ 2 วันทำการแรกของเดือนม.ค.ปีถัดไป โดยในรอบนี้ปรากฎการณ์ดังกล่าวตรงกับวันที่ 24 ธ.ค. 2568 จนถึงวันที่ 5 ม.ค. 2569
ขณะที่นักกลยุทธ์ส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มตลาดในปี 2569 โดยปีเตอร์ ออปเพนไฮเมอร์ หัวหน้านักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs มองว่า ตลาดหุ้นยังคงมีแนวโน้มที่สดใส เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องและธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 9-10 ธ.ค. ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2569 ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2569
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานล่าสุด สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาจนกระทั่งปิดการขาย
ข่าวเด่น