คริปโตเคอเรนซี่
Special Report : หมดยุคเงินกระดาษ กับโลกในอนาคตที่จะถูกแทนที่ด้วย "เงินดิจิทัล"


พัฒนาการของโลกในยุคปัจจุบันที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น ทำให้มีนวัตกรรมต่าง ๆ ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน มีการ Normalize สิ่งใหม่ขึ้นมา รวมถึงยังเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดการสรรสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ออกมาเป็นทอด ๆ ในรูปแบบของการพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือเป็น Solution ที่เข้ามาแก้ไข Pain Point อะไรบางอย่าง เพื่อให้เกิดการสอดรับกับวิถีประจำวันในปัจจุบัน
 
โดยหากเราย้อนไปมองในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีการเกิดพลวัตทางเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราอย่างรวดเร็ว และนับวันความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็ยิ่งมีความรวดเร็วมากขึ้นที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่น การเกิดขึ้นของแอปพลิเคชั่น Line ที่ทำให้รูปแบบการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงยังกระตุ้นให้เกิดนิยามรูปแบบใหม่ในลักษณะข้อความแชท หรือการเกิดขึ้นของ TikTok ก็ทำให้พฤติกรรมการรับและส่งสารของมนุษย์มีความเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
 
เช่นเดียวกับวิวัฒนาการทางการเงิน ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม และวิถีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยความเป็นดิจิทัลมากขึ้น จากแต่ก่อนที่เราใช้เงินกระดาษในการจับจ่ายซื้อของ พอเข้าสู่ยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้ามา ผู้คนมีการติดต่อสื่อสารได้กว้างขวางขึ้น ก็ทำให้เกิดตลาดทางออนไลน์ ที่เชื่อมระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายให้ใกล้กันมากกว่าเดิม โดยเริ่มแรกผู้ซื้อจะต้องชำระเงินผ่านการโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มเท่านั้น แต่ต่อมาก็เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชั่นธนาคารที่สามารถทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ได้ ซึ่งการพัฒนาตรงนี้มีความสัมพันธ์ควบคู่ไปกับพัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ ที่สมาร์ทโฟนได้ถือกำเนิดขึ้นมา และต่อจากนั้นก็มีนวัตกรรมทางการเงินที่ผุดขึ้นมาอำนวยความสะดวกเรื่อย ๆ เช่น ระบบชำระเงิน QR Code Payment, Promptpay, ผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการให้สินเชื่อรูปแบบใหม่ ๆ มากมาย ไปจนถึง เหรียญคริปโตและสกุลเงินดิจิทัล
 
โดยพัฒนาการทางการเงินที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจนเข้าสู่ยุคของเงินดิจิทัลในปัจจุบันนี้ มีความสอดรับเข้ากับเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังมีการขยายขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่นในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนนั้น 44% ของ GDP ก็มาจากเศรษฐกิจดิจิทัล และการที่โลกตอนนี้อยู่ระหว่างการแบ่งฝ่ายทางอำนาจ ที่จีนกำลังแข่งขันกับทางสหรัฐอเมริกา ก็ทำให้ทุกประเทศทั่วโลก เข้าสู่ภาคบังคับที่ต้องทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ทั้งการเพิ่ม Skillset ใหม่ ๆ พัฒนาอุตสาหกรรมที่หลากหลายโดยเฉพาะเรื่องของการใช้เทคโนโลยีมาอยู่ในกระบวนการดำเนินงาน ไปจนถึงการสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้ประเทศเข้าสู่ความเป็น Advanced Economy หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว อันเป็นการก้าวร่วมตามครรลองของโลกในยุคดิจิทัล ซึ่งแน่นอนว่าสถาบันการเงินก็จำเป็นต้องเกิดการพัฒนาตามไปด้วย เปรียบได้กับ Hardware และ Software ที่ต้องพัฒนาร่วมไปด้วยกัน (เช่นเดียวกับการเกิดขึ้นของตลาดในโลกออนไลน์และแอปพลิเคชั่นธนาคารที่ได้กล่าวไปข้างต้น) ฉะนั้นเงินก็จะต้องอยู่ในรูปแบบดิจิทัลตามไปด้วย
 
โดยเหตุผลสนับสนุนที่ชี้ชัดว่า เงินกระดาษกำลังเดินทางมาถึงยุคสิ้นสุดแล้ว คือ การที่สังคมโลกกำลังดำเนินมาถึงการเปิดรับ Bitcoin ในฐานะ Digital Gold โดยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐ ที่สนับสนุนให้รัฐบาลใช้ Bitcoin มาเป็นทุนสำรองของประเทศ โดยมีแผนให้รัฐบาลซื้อสะสม Bitcoin จำนวน 1 ล้าน BTC หากการประกาศซื้ออย่างเป็นทางการมาถึง ก็จะเป็นเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อหรืออุปสงค์อันมหาศาล จากทั้งรัฐบาลประเทศอื่น ๆ และสถาบันทางการเงินทั่วโลก ซึ่งการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลนี้ จะส่งแรงกระเพื่อมให้เกิดสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ มากมาย (เนื่องจากมีการการันตีแล้วว่า Bitcoin เป็น Digital Gold ที่สามารถนำมา Back Up มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลนั้น ๆ เอาไว้ได้)
 
นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ที่ทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตหมดแล้ว ในวงการการเงินที่อยู่ในระบบนิเวศของโลกเดียวกัน ก็มีแนวโน้มที่การตัดไม้มาทำเป็นเงินกระดาษจะสิ้นสุดในอีกไม่ถึง 10 ปีต่อจากนี้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 พ.ย. 2567 เวลา : 18:44:50
23-12-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 5 องศา "ยอดภู" 7 องศา

2. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ธ.ค.67) บวก 9.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,374.90 จุด

3. ทองเปิดตลาดวันนี้ (23 ธ.ค. 67) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 43,100 บาท

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 ธ.ค.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 34.29 บาทต่อดอลลาร์

5. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

6. ตลาดหุ้นปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 12.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.07 จุด

7. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 ธ.ค.67) ลบ 13.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.05 จุด

8. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,580 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,615 เหรียญ

9. ทั่วไทยอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 6 องศา

10. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) บวก 15.37 จุด ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐวันนี้

11. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) ร่วง 45.20 เหรียญ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย

12. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 0.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.83 จุด

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค. 67) ปรับลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,150 บาท

14. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 ธ.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 10:25 am