กองทุนรวม
หลักทรัพย์บัวหลวง แนะสร้างผลตอบแทนปลายทางดอกเบี้ยขาขึ้น ด้วยการ "บริหารพอร์ตลงทุนต่างประเทศแบบอัตโนมัติ" ผ่านกลยุทธ์ "Dynamic Income USD ETF"


 

นายดลนภัตถ์ เย็นชัยสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (ดัชนี CPI) ปรับตัวลงมาสู่ 3% นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่ Fed ตั้งไว้ที่ระดับ 2% ส่งผลให้ตลาดมองว่า Fed อาจเริ่มคงดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนก.ย. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะเห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวในปัจจุบันที่ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ และเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะพบจุดสูงสุดในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันราคาตราสารหนี้ที่กำลังจะสิ้นสุดลง ในขณะที่ Bond Yield อยู่ในระดับสูง ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าสะสมสินทรัพย์ประเภท ตราสารหนี้ไว้ในพอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้สินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ถูกจำแนกออกเป็นหลายประเภท เช่น แบ่งตามอายุคงเหลือ, แบ่งตามอันดับความน่าเชื่อถือ, แบ่งตามอุตสาหกรรมของผู้ออกตราสารหนี้ เป็นต้น ทำให้นักลงทุนอาจต้องใช้ระยะเวลาในการทำความเข้าใจลักษณะของตราสาร รวมไปถึงการจัดพอร์ตและปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเครื่องมือการบริหารพอร์ตลงทุนต่างประเทศแบบอัตโนมัติ ด้วยกลยุทธ์ “Dynamic Income USD ETF” หรือ DIF ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดในช่วงนี้

สำหรับจุดเด่นของกลยุทธ์ DIF คือ 1.คัดเลือก ETF ตราสารหนี้สหรัฐฯ ที่โดดเด่นในแต่ละประเภทอายุตราสารหนี้ 2.กระจายการลงทุนใน ETF ตราสารหนี้ ประเภทต่าง ๆ โดยกำหนดสัดส่วนการลงทุนตามสภาวะตลาด เศรษฐกิจ และทิศทางดอกเบี้ย 3.บริหารพอร์ตโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและระบบบริหารพอร์ตอัตโนมัติ 4.ติดตามการลงทุนได้ ทุกวันผ่านเว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง

ทั้งนี้นักลงทุนสามารถสมัครบริการบริหารพอร์ตลงทุนต่างประเทศแบบอัตโนมัติ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นขั้นต่ำ 1 ล้านบาท ง่าย ๆ ไม่ต้องส่งเอกสาร ผ่านแอปพลิเคชัน Wealth Connex เลือกเมนู Solution เลือกสมัครบริการลงทุน และเปิดบัญชี Private Fund หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ส.ค. 2566 เวลา : 12:26:00
07-10-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (7 ต.ค.67) บวก 7.95 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,452.20 จุด

2. ประกาศ กปน.: 10 ต.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (7 ต.ค.67) บวก 4.29 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,448.54 จุด

4. MTS Gold คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบระหว่างแนวรับที่ระดับ 2,640 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,670 เหรียญ

5. มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก ฝน 20% ภาคเหนือ 10% ส่วนภาคใต้ ฝน 60-70%

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (7 ต.ค. 67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,300 บาท

7. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ ( 7 ต.ค. 67) บวก 1.08 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,445.33 จุด

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.30-33.55 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (7 ต.ค.67) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 33.33 บาทต่อดอลลาร์

10. เติมด่วน!!! พรุ่งนี้ (5 ต.ค. 67) น้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับขึ้น 30 สต./ลิตร

11. ประกาศ กปน.: 9 ต.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสุขสวัสดิ์

12. ตลาดหุ้นปิด (4 ต.ค.67) บวก 1.52 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,444.25 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ต.ค.67) บวก 2.06 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,444.79 จุด

14. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ระดับ 2,645 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,685 เหรียญ

15. มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับมีมรสุม ส่งผลฝนฟ้าคะนองในกรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคใต้ 70% ภาคเหนือ-ภาคตะวันออก 60%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 7, 2024, 9:39 pm