เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 35.00-35.70 มองเงินเยนจบการอ่อนค่ารอบใหญ่


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า 
มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.70 บาท/ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 35.35 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.34-36.02 บาท/ดอลลาร์ และเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 5 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% โดยประธานเฟดระบุว่าอาจพิจารณาเรื่องการลดดอกเบี้ยเดือนก.ย.หากเงินเฟ้อชะลอตัวตามความคาดหมาย โดยแถลงการณ์ระบุว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับ “ค่อนข้างสูง” เทียบกับการประเมินเดิมว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับ “สูง” มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว ทางด้านเงินเยนพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดรอบ 6 เดือน หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ขึ้นดอกเบี้ยจาก 0-0.1% เป็น 0.25% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 51 ตามการคาดการณ์ของเราแต่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ร่วมตลาดบางส่วน และบีโอเจประกาศจะปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นรายเดือนลงครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 1,647 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 22,540 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ว่า หลังข้อมูลการจ้างงานเดือนก.ค.ของสหรัฐฯออกมาย่ำแย่เกินคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสราว 70% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ทั้งนี้ แถลงการณ์นโยบายล่าสุดของเฟดได้ตัดข้อความเดิมที่ระบุว่าเฟด “ให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อความเสี่ยงด้านภาวะเงินเฟ้อ” และปรับเป็นข้อความที่ว่าเฟดให้ความสนใจต่อเป้าหมายทั้งภาวะการจ้างงานเต็มที่และการรักษาเสถียรภาพของราคา นอกจากนี้ เรากำลังเห็นความสัมพันธ์ที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้งระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยิลด์)สหรัฐฯ บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและค่าเงินเยน เราเชื่อว่า dynamic ดังกล่าวสนับสนุนมุมมองที่ว่าเงินเยนจบการอ่อนค่ารอบใหญ่ท่ามกลางการลดลงของบอนด์ยิลด์นอกญี่ปุ่น ความผันผวนของตลาดการเงินที่สูงขึ้น ความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง รวมถึงการตัดสินใจด้านนโยบายของบีโอเจที่กระตุ้นให้เกิดการระบายสถานะ yen carry trade อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับสถานการณ์ตลาดในประเทศ ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ส่วนเศรษฐกิจในระยะถัดไปธปท.ระบุว่ายังมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวแต่คาดว่าการส่งออกสินค้าฟื้นตัวช้า นอกจากนี้ ต้องติดตามผลของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการภาครัฐรวมถึงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ต่อไป
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ส.ค. 2567 เวลา : 13:51:31
16-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

6. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 พ.ย.68) ร่วงลง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,950 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (14 พ.ย.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนี 1,280.09 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท / ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (13 พ.ย.68) บวก 2.63 จุด ดัชนี 1,287.44 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 16, 2025, 12:47 am