แบงก์-นอนแบงก์
กรุงศรี จัดสัมมนาใหญ่ประจำปี Krungsri Business Forum 2024 แนะแนวทางข้ามฝ่าขีดจำกัด พร้อมก้าวสู่ความยิ่งใหญ่แบบ Business Titans บนโลกธุรกิจ


 

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) จัดสัมมนาใหญ่แห่งปีสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ Krungsri Business Forum 2024 ในหัวข้อ Business Titans: Breaking the Ground to Win โดยได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและองค์กรธุรกิจชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงิน การธนาคาร และการดำเนินงานด้าน ESG มาร่วมเปิดโลกทัศน์ สะท้อนมุมมองการทำธุรกิจ การเงิน และสังคม ในการเอาชนะอุปสรรค ข้ามฝ่าขีดจำกัดเพื่อก้าวสู่ความยิ่งใหญ่แบบ Business Titans บนโลกธุรกิจ

 
งานสัมมนาใหญ่ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในหัวข้อภาคสังคมกับการสร้างชาติ (Scaling Societal Strategies for Nation Building) ฉายภาพของประเทศไทยที่กลายเป็น Aged Society อย่างสมบูรณ์ พร้อมกับให้มุมมองว่า Titans ไม่จำเป็นต้องมีเฉพาะมิติของธุรกิจอย่างเดียว แต่สามารถเป็น ‘Titans for Sustainability’ ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีคุณูปการมากมายต่อประเทศ การมีนโยบายต่อผู้สูงอายุที่เหมาะสมจะได้ประโยชน์หลากหลายด้าน ซึ่งนอกจากจะได้ใช้ประสบการณ์ที่ผู้สูงอายุมีในการทำงานเพื่อพัฒนาประเทศแล้ว ยังเป็นการสร้าง Well-being ของผู้สูงอายุไปพร้อมกัน

 
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ให้มุมมองสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกว่า ผู้นำทางธุรกิจ หรือ Business Titans ที่แท้จริงมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ท้าทาย ซึ่งหนทางสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแค่ปรับตัวในธุรกิจของตนเองเท่านั้น แต่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับทั้งอุตสาหกรรม โดยมองว่าท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่ยังคงไม่แน่นอน ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ การแข่งขัน วิกฤติสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล ปัจจัยท้าทายเหล่านี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน กรุงศรี ในฐานะธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ พร้อมที่จะสนับสนุนลูกค้าธุรกิจในการปรับตัวและเพิ่มศักยภาพในการเปลี่ยนความท้าทายนี้ให้กลายเป็นโอกาส เพื่อสร้างอนาคตบทใหม่ของธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับทั้งผลกำไร ความรับผิดชอบ และความยั่งยืนอย่างสมดุล

 
สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจไทย นายกฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ตั้งคำถามสำคัญว่า “ประเทศไทยต้องเดินหน้าอย่างไรให้เติบโตและทั่วถึง” และได้ให้ข้อเสนอแนะว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตแบบเดิมไม่ได้ โดย 1) ต้องลงทุนในภาคธุรกิจที่มีศักยภาพในโลกยุคใหม่ 2) ต้องเน้นการสร้างมูลค่าจากการเพิ่มคุณภาพ และ 3) ต้องเติบโตจากท้องถิ่นให้มากขึ้น ผ่านการเชื่อมตลาดกับโลก ร่วมมือกับ Partner และใช้เทคโนโลยีสร้าง Economy of Scale เป็นต้น

 
เมื่อพูดถึงบทบาทของภาคการเงิน นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และนายอานุช เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) ประจำประเทศไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อภาคการเงินกับการขับเคลื่อนประเทศผ่านแนวทาง ESG (Navigating ESG Challenges: How the Financial Sector Drives Sustainable Change) โดยสรุปว่า ทั้งสององค์กร ต่างพร้อมเป็นผู้สนับสนุนภาคธุรกิจทุกระดับในการสร้างองค์ความรู้ Business Model ใหม่ๆ Business Practice และที่สำคัญคือเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อให้เกิด ESG Transition ในประเทศไทย พร้อมย้ำว่าการทำความเข้าใจและลงมือทำอย่างทันท่วงทีจะสร้างโอกาสครั้งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถหาตลาดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 
ในมุมของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับอสังหาฯ แห่งอนาคต ในยุคที่บ้านเปลี่ยนความหมาย (Real Estate of the Future: Redefining Homes) ว่าด้วยบริบทของเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน ขนส่งสาธารณะที่ไม่ครอบคลุมและมีราคาสูง ส่งผลให้เกิดการ Mismatch กันของ Demand ที่ต้องการบ้านในราคาที่เข้าถึงได้และ Supply ของตลาดอสังหาฯ ที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท คนรุ่นใหม่จึงเลือกที่จะชะลอการซื้อบ้านและตัดสินใจเช่า ซึ่ง ดร.เกษรา ได้เสนอให้มีการ Redefine Housing Industry และเสนอทางเลือกใหม่ๆ เช่น ‘Rent to Own’ เป็นต้น

 
ด้าน นายเชาวลิต รัตนกรไกรศรี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายเทคโนโลยีและโซลูชั่นองค์กร บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และนายตุลย์ โรจน์เสรี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ระดับองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมพูดคุยถึงกลยุทธ์การใช้ AI เพื่อความเป็นผู้นำทางธุรกิจว่า นอกจาก AI จะช่วยให้เรา “ทำน้อย แต่ได้มาก” เพราะเป็นการเพิ่มทั้ง Productivity และ Creativity ให้แก่พนักงานและบริษัท และช่วยให้ SME ที่เคยติดปัญหา Cost of Service เข้าถึงเทคโนโลยีได้ แล้วยังชวนให้ได้คิดอย่างจริงจังว่า “AI ไม่ได้มา Replace แต่คนที่ใช้ AI ต่างหากจะมา Replace ทุกคน”

 
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการ SME อย่าง นายพลพัฒน์ อัศวะประภา ผู้ก่อตั้ง อาซาว่า กรุ๊ป และนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO – PaySolutions, Creden, กองทุน Fino Efra Fund ซึ่งทั้งสองถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญในกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ รวมถึงเป็นผู้นำทางความคิด ขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับ SME ของประเทศ และ นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อธุรกิจไทยในยุคที่โลกเปลี่ยน (Resilience Strategies in a Changing Business Landscape) ท่ามกลางข้อจำกัดของ SME ด้านต้นทุนและการแข่งขันที่สูง การแข่งขันกันลดราคา (Price War) และการเข้ามาของธุรกิจ Platform และกลุ่มทุนจีน กลยุทธ์ที่สำคัญของ SME ไทย คือการหาสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และทำได้ดี สร้างแบรนด์ สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยรักษาความต่อเนื่องในการส่งผ่านคุณค่าให้ลูกค้า และที่สำคัญคือใช้เทคโนโลยี Leverage การทำธุรกิจ ซึ่งกรุงศรีมีเครื่องมือ โครงการ และการอบรมต่างๆ พร้อมสนับสนุนและเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ

 
ในช่วงท้าย Mr. Mitsuhiro Ito, Senior Consultant, Global Business Division, Mitsubishi Research Institute (MRI) ได้แบ่งปันเรื่องราวและถอดบทเรียนความสำเร็จของประเทศญี่ปุ่นในการอยู่ร่วมกับสังคมผู้สูงอายุ ในหัวข้อ การสร้างโอกาสธุรกิจในสังคมผู้สูงอายุ (Capitalizing on Demographic Shifts: Business Opportunities in an Aging Society) โดยสรุปใจความว่า กุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยพลิกธุรกิจให้ไปต่อได้ท่ามกลางสังคมผู้สูงอายุ คือ การมีนโยบายด้าน Health Promotion รวมถึงการมีนโยบายที่ครอบคลุมทุกมิติ (Holistic Approach) ที่มีในธุรกิจ Healthcare Market

งานสัมมนา Krungsri Business Forum ในหัวข้อ Business Titans: Breaking the Ground to Win เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านธุรกิจของลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่ออัปเดตสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงแบ่งปันข้อมูลความรู้ให้ลูกค้าธุรกิจได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากวิทยากรชั้นแนวหน้า พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้กับลูกค้า ทั้งนี้ สามารถติดตามรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Krungsri Business Empowerment
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ต.ค. 2567 เวลา : 12:01:15
22-12-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

2. ตลาดหุ้นปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 12.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.07 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 ธ.ค.67) ลบ 13.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.05 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,580 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,615 เหรียญ

5. ทั่วไทยอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 6 องศา

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) บวก 15.37 จุด ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐวันนี้

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) ร่วง 45.20 เหรียญ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 0.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.83 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค. 67) ปรับลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,150 บาท

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 ธ.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (19 ธ.ค.67) ลบ 21.42 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,377.53 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 ธ.ค.67) ลบ 6.55 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,392.40 จุด

14. MTS Gold คาดว่าวันนี้ราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,590 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,640 เหรียญ

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 ธ.ค.67) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 22, 2024, 1:14 pm