กองทุนรวม
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน ES-TECHRMF รับมาตรการภาษีส่งท้ายปี 67 สร้างโอกาสเติบโตระยะยาว ผ่านหุ้นเทคฯ ทั่วโลก IPO 28 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้


 

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด  หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ที่นักลงทุนมองหาโอกาสในการลงทุนเพื่อประหยัดภาษี กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว โดย บลจ.อีสท์สปริง ได้เตรียมเปิดตัวกองทุน RMF ใหม่ คือ กองทุน Eastspring Global Prime Technology RMF (ES-TECHRMF) ซึ่งจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม ศกนี้ ด้วยเงินทุนโครงการ 2,000  ล้านบาท 

กองทุน ES-TECHRMF  จะเน้นลงทุนในกองทุน Eastspring Investments - Global Technology Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักในหน่วยลงทุนชนิด Class C บริหารจัดการโดย Eastspring Investments (Luxembourg) Singapore ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มผลตอบแทนรวมในระยะยาวให้สูงสุดผ่านการลงทุนในหุ้นและหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั่วโลกที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงการจัดหาหรือใช้เทคโนโลยีที่ทำให้บริษัทเหล่านั้นมีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในตลาด โดยกองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

สำหรับพอร์ตการลงทุนในกองทุน ES-TECHRMF จะประกอบด้วยธุรกิจที่เป็น Trend ใหม่ในโลกแห่งอนาคต โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนใน 5 ธีมหลัก ซึ่งปัจจุบันจะให้น้ำหนักในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและอินเตอร์เน็ตที่ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในกลุ่มอเมริกาเหนือ  โดยแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่  Semiconductors 30% , Software 20% ,  Interactive Media & Services 17% , ค้าปลีก 7% และ อื่นๆ 6.4%  และยังให้ความสำคัญกับการคัดเลือกหลักทรัพย์ราว 40 - 80 บริษัท ที่มีกำไรและกระแสเงินสด มีปัจจัยเชิงคุณภาพแข็งแกร่ง สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยมีสัดส่วนการลงทุนสูงสุดใน 5 บริษัทแรก ได้แก่ Microsoft 8.7% , Alphabet 7.7% ,  Nvidia 7.4% , Meta 6% และ TSMC 4.9%  (ที่มา: Eastspring (Singapore) and Janus Henderson ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2567) 

นางสาวดารบุษป์ กล่าวถึงเหตุผลในการออกกองทุน ES-TECHRMF ในช่วงนี้ว่า นอกจากเป็นช่องทางช่วยลดหย่อนภาษีแล้ว ยังช่วยสร้างความมั่นคงของพอร์ตการลงทุนระยะยาว ด้วยจุดเด่นของกองทุนที่คัดสรรหุ้นเทคโนโลยีระดับโลก  ที่พร้อมเติบโตไปกับธีมการลงทุนแห่งอนาคตซึ่งทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี สะท้อนจากการออกนโยบายต่างๆ ที่สนับสนุนต่อการลงทุนด้านเทคโนโลยี AI ที่ช่วยผลักดันการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งในกลุ่มธุรกิจโฆษณา, สุขภาพ, พลังงาน, ค้าปลีก, ขนส่ง และการเงิน ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่า ประกอบกับสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยลดลง ได้ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากต้นทุนการเงินลดลงและส่งผลต่อการลงทุน Infrastructure ที่มากขึ้น 

“กองทุนมีการบริหารจัดการเชิงรุกโดยทีมผู้จัดการณ์กองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปีจาก Janus Henderson  ซึ่งมีกระบวนการลงทุนที่เป็นระบบ เน้นบริษัทที่ได้ประโยชน์เชิงโครงสร้างและมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และเครือข่ายทั่วโลก มีการพิจารณาด้าน ESG ในการวิเคราะห์บริษัทเพื่อลงทุน  นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนแล้ว ยังส่งผลให้กองทุนหลักสามารถ Outperform ได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาด้วยผลตอบแทนมากกว่า 29% ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2567)  สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการเชิงรุกจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออมเพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว โดยสามารถลงทุนได้สูงสุด 30% ของรายได้ตลอดปี เมื่อรวมกับกองทุนประหยัดภาษีอื่นๆแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ” นางสาวดารบุษป์กล่าวในที่สุด  

พิเศษสุดเมื่อลงทุนในกองทุนครบทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดอีสท์สปริงบริหารเงิน (ES-CASH) มูลค่า 100 บาท ตามเงื่อนไขโปรโมชั่นที่ บลจ.อีสท์สปริง กำหนด
 
ผู้สนใจลงทุนสามารถดูรายละเอียดศึกษาข้อมูลและรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่รับโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย ก่อนการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ เงื่อนไขการลงทุนในกองทุนและเงื่อนไขการได้รับสิทธิโปรโมชั่นในกองทุนต้องเป็นไปตามเงื่อนไขทางภาษีตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด”ผู้ลงทุนสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง

คำเตือน: การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมก่อนการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ เงื่อนไขการลงทุนในกองทุนต้องเป็นไปตามเงื่อนไขทางภาษีตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 พ.ย. 2567 เวลา : 15:14:08
23-12-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 5 องศา "ยอดภู" 7 องศา

2. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ธ.ค.67) บวก 9.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,374.90 จุด

3. ทองเปิดตลาดวันนี้ (23 ธ.ค. 67) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 43,100 บาท

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 ธ.ค.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 34.29 บาทต่อดอลลาร์

5. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

6. ตลาดหุ้นปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 12.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.07 จุด

7. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 ธ.ค.67) ลบ 13.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.05 จุด

8. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,580 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,615 เหรียญ

9. ทั่วไทยอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 6 องศา

10. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) บวก 15.37 จุด ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐวันนี้

11. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) ร่วง 45.20 เหรียญ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย

12. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 0.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.83 จุด

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค. 67) ปรับลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,150 บาท

14. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 ธ.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 10:38 am