แบงก์-นอนแบงก์
ธอส. ร่วมกับหอการค้าจังหวัดระยอง เผยข้อมูลสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ - ท่องเที่ยว - ลงทุน รองรับนโยบายรัฐบาล ผลักดันเศรษฐกิจจังหวัดเมืองน่าเที่ยวขยายตัวดีขึ้น


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับหอการค้าจังหวัดระยอง เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยว การลงทุน และภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดเมืองน่าเที่ยวของไทยให้ขยายตัวดีขึ้นตามที่คาดการณ์

 
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดย นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดระยอง โดยนายทินกร ลาวัณย์เสถียร รองประธานหอการค้าจังหวัดระยอง รักษาการประธานหอการค้าจังหวัดระยอง, นายสุทธิพร ภู่ธนะพิบูล รองประธานหอการค้าจังหวัดระยอง และนายสุดชาย สิงห์มโน กรรมการหอการค้าจังหวัดระยอง เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของจังหวัดระยอง ทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้านการท่องเที่ยว และการลงทุน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการผลักดันการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจใน 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว ให้ขยายตัวได้ดีขึ้นใกล้เคียงกับจังหวัดท่องเที่ยวหลัก โดยนายสุทธิพร ภู่ธนะพิบูล รองประธานหอการค้าจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองยังคงมีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เห็นได้จากโอกาสในการลงทุนภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดระยอง ที่คาดว่าในปี 2567 จะขยายตัวประมาณ 3% เนื่องจากอุตสาหกรรมภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรมดิจิทัล ขณะที่ภาคการค้าและการเกษตรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกร อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้า และพัฒนานวัตกรรมการเกษตร เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสินค้าเกษตรก่อนผลักดันส่งออกต่างประเทศมากขึ้น สำหรับด้านการท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัดระยอง มั่นใจว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากจังหวัดระยองกำลังจัดทำแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัดระยองในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย การส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดาด้วยการส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวด้วยการจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมใหม่ ๆ เอาใจกลุ่ม GEN Y มากขึ้น และการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งระบบการขนส่งทางราง ทางถนน ทางเรือ และทางอากาศ เพื่อให้ระยองเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในแถบภาคตะวันออกได้ในอนาคต

 
รองประธานหอการค้าจังหวัดระยอง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากจังหวัดระยองมีการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ได้ตามแผนยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้ จะทำให้การลงทุนภายในจังหวัดมีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท ส่งผลต่อการสร้างงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงส่งผลให้เศรษฐกิจจังหวัดระยองขยายตัวได้ถึง 5% ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้ดีขึ้นตามไปด้วย

 
สำหรับ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ด้วยการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับสนับสนุนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาโครงการจัดสรร เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน อาทิ โครงการ Premium Refinance In ปี 2567 เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินและอาคาร สินเชื่อประเภทแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการไถ่ถอนจำนองที่ดินและอาคารแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย  อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 4.00% ต่อปี, ปีที่ 2 คงที่ เท่ากับ 4.50% ต่อปี, ปีที่ 3 คงที่ เท่ากับ 5.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 4.50% ต่อปี) ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MLR-1.00% ต่อปี (5. 25% ต่อปี) และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR (อัตราดอกเบี้ย MLR ของ ธอส. ในปัจจุบันเท่ากับ 6.25% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 30 ปี พิเศษ! ยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าประเมินหลักประกัน ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทำนิติกรรมถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 หรือก่อนระยะเวลาดังกล่าวหากธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว (กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว) และสินเชื่อประเภทแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า ปี 2567 : สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ปรับปรุง ซ่อมแซม อาคารแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย  และกู้เพิ่ม โดยผู้ที่ขอกู้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 คงที่ เท่ากับ 4.75% ต่อปี และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR สำหรับผู้ที่ขอกู้วงเงินเกิน 5 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 4.50% ต่อปี, ปีที่ 2 คงที่ เท่ากับ  5.00% ต่อปี, ปีที่ 3 คงที่ เท่ากับ 5.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 5.00% ต่อปี) ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MLR- ไม่เกิน 1.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR  และพิเศษ! จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าประเมินหลักประกัน ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 หรือก่อนระยะเวลาดังกล่าว หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว (กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)

 
ขณะเดียวกัน ธอส. ยังจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับลูกค้าด้วย อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 หรือ 40 ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อ หรือ ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย วงเงินกู้ส่วนที่ไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อหลักประกัน ได้รับอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 5 เท่ากับ 1.59% ต่อปี, ปีที่ 6 – 8 เท่ากับ MRR – 2.00% ต่อปี (4.545%  ต่อปี), ปีที่ 9 – ตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR – 0.50% ต่อปี (6.045% ต่อปี) (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) กรณีกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลา 40 ปี ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,400 บาท / เดือน สำหรับวงเงินกู้ ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์อื่นที่ธนาคารมีให้บริการได้, มาตรการสินเชื่อซื้อ – สร้าง สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย ในระดับราคาซื้อขายหรือปลูกสร้างไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย คงที่ 5 ปีแรก เพียง 3.00% ต่อปี, ปีที่ 6 – 7 เท่ากับ MRR-2% ต่อปี (4.545% ต่อปี), ปีที่ 8 - 9  เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี (5.045% ต่อปี) และปีที่ 10 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี และลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยสำหรับซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันอยู่ที่ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง 4,100 บาท พิเศษ! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 - 2,300 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Mobile Application : GHB ALL GEN พร้อมสมัคร Line GHB Buddy เพื่อรับรหัส 6 หลัก ก่อนนำมาประกอบการยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568, มาตรการสินเชื่อซ่อม – แต่ง  สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ต้องการกู้เพิ่มเพื่อต่อเติม ซ่อมแซม หรือซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย มีการทำนิติกรรมสัญญาและผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยวงเงินกู้เดิมภายใต้หลักประกันสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีประวัติการผ่อนชำระสม่ำเสมอทุกเดือนไม่น้อยกว่า 1 ปี วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดนาน 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1.00% ต่อปี กรณีกู้ 1 แสนบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 2,900 บาท พิเศษ! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 บาท โดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน ยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้และสิ้นสุดโครงการเมื่อธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการแล้ว และสินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส. สำหรับผู้ที่ต้องการสินเชื่อ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ย เดือนที่ 1 - 6 เท่ากับ 0.71% ต่อปี, เดือนที่ 7 - 24 เท่ากับ 2.71% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.71% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.71% ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 2,400 บาท/เดือน ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ธ.ค. 2567 เวลา : 16:29:46
23-12-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 5 องศา "ยอดภู" 7 องศา

2. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ธ.ค.67) บวก 9.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,374.90 จุด

3. ทองเปิดตลาดวันนี้ (23 ธ.ค. 67) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 43,100 บาท

4. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 ธ.ค.67) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 34.29 บาทต่อดอลลาร์

5. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

6. ตลาดหุ้นปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 12.46 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.07 จุด

7. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 ธ.ค.67) ลบ 13.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.05 จุด

8. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,580 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,615 เหรียญ

9. ทั่วไทยอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 6 องศา

10. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) บวก 15.37 จุด ตลาดจับตาดัชนี PCE สหรัฐวันนี้

11. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (19 ธ.ค.67) ร่วง 45.20 เหรียญ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย

12. ตลาดหุ้นไทยเปิด (20 ธ.ค.67) ลบ 0.50 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.83 จุด

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค. 67) ปรับลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,150 บาท

14. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (20 ธ.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 10:40 am