กองทุนรวม
ธ.ทิสโก้ชู 3 กองทุนเด่น ! กองทุน ES-GINCOME, KFGPROP, TGOLD โอกาสปกป้องกำไร - ไม่หวั่นนโยบายทรัมป์


ธนาคารทิสโก้เคาะ 3 กองทุน สร้างโอกาสปกป้องความเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์ (Asset Shield) ได้แก่  กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ (KFGPROP) ลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) โลก และกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ (TGOLD) เน้นลงทุนในทองคำแท่ง คาดตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง และ REITs โลกได้รับประโยชน์จากช่วงดอกเบี้ยขาลง และราคาทองคำแท่งอาจปรับขึ้นช่วงหนี้สาธารณะสหรัฐฯ พุ่ง    

 
นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2568 สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ช่วยปกป้องความผันผวนจากนโยบายนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Asset Shield) พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ระดับโลก และทองคำ โดยมี 3 กองทุนรวมที่แนะนำ ดังนี้ 1. กองทุน ES-GINCOME เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก 2. กองทุน KFGPROP ลงทุนใน REITs และอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก และ 3. กองทุน TGOLD ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในทองคำแท่ง  

สำหรับรายละเอียดของ 3 กองทุนในธีม Asset Shield ที่ธนาคารทิสโก้แนะนำ มีดังนี้  

กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง แนะนำลงทุนในกองทุน ES-GINCOME 

กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เน้นลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สิน กองทุนหลักอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารพอร์ตให้เข้ากับสภาวะตลาดได้ดี ซึ่งข้อมูลจาก PIMCO GIS Income Fund  ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ระบุว่าในช่วงนี้กองทุนหลักลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ย 4.09 ปี ซึ่งนับเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตราสารหนี้ระยะยาว นอกจากนี้ในส่วนของการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนผู้จัดการกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ AA- ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้อีกด้วย 

“ตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายอัตราดอกเบี้ยขาลง  โดยข้อมูลจาก TISCO Wealth Advisory ระบุว่าในปี 2568 ตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง มีโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมกว่า 5% ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวอาจจะได้ผลตอบแทนรวมเพียง 4.5% เท่านั้น เนื่องจากคาดว่าเส้นแสดงอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในแต่ละช่วงอายุ (Yield Curve) จะมีความชันมากขึ้น เพราะอัตราผลตอบแทนหรือ Yield ของตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลางจะปรับลดลงตามนโยบายการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่เราคาดว่าจะลดลงจาก 4.25 – 4.50% เหลือ 3.75-4.00% ณ สิ้นปี 2568  ในขณะที่อัตราผลตอบแทนหรือ Yield ของตราสารหนี้ระยะยาวจะปรับลดลงมาด้วยแต่จะลดลงในอัตราที่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง เพราะคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะเร่งตัวเพิ่มขึ้นจากนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้า (Tariffs) ของทรัมป์ ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนของตัวยาวลดลงไม่ได้มากนัก ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลางจึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา (Capital gains) มากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว” นางวรสินีกล่าว  

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) โลก แนะนำลงทุนในกองทุน KFGPROP  

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ (KFGPROP) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Janus Henderson-Global Real Estate EquityIncome Fund (กองทุนหลัก) เน้นการลงทุนทั่วโลกในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจหรือเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ จะลงทุนใน REITs ซึ่งลงทุนในอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อพาร์ทเมนต์ เป็นต้น กองทุนนี้โดดเด่นตรงที่กองทุนหลักมีกระบวนการลงทุนยืดหยุ่นและแตกต่าง ทีมผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์ยาวนานมีมุมมองการลงทุนเชิงลึกเพื่อเฟ้นหาแนวทางการลงทุนที่ดีที่สุดในแต่ละสภาวะตลาด 

“Global REITs จะมีต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยขาลง ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงานมากขึ้น โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่าในปี 2568 อัตราการเติบโตของกำไรกลุ่ม Global REITs จะเติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ในปี 2560 – 2562 ซึ่งเป็นช่วงทรัมป์เดินหน้าสงครามการค้า ราคา Global REITs ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น 24%” นางวรสินีกล่าว  

ทองคำ แนะนำลงทุนในกองทุน TGOLD 

กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ (TGOLD) ความเสี่ยงระดับ 8 (เสี่ยงสูงมาก) ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในทองคำแท่ง จัดตั้งและจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC โดยกองทุน SPDR เป็นกองทุน ETF ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำ  จุดเด่นของกองทุนนี้คือ การนำเงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนไปซื้อทองคำแท่งเพียงอย่างเดียว  ไม่มีการนำไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ หรือใช้ตราสารอนุพันธ์ใดๆ  ผลตอบแทนที่ได้จึงมาจากการลงทุนในทองคำ 100% มีสภาพคล่องสูงซื้อขายง่าย และมีราคาใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่งในตลาดโลก  ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการลงทุนในทองคำแท่งอ้างอิงกับราคาทองคำแท่งใน LBMA หรือสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน 

“ในช่วงสมัยแรกที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีและดำเนินนโยบายต่างๆ ทำให้สหรัฐฯ มีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นถึง 39% ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 53% ดังนั้น จึงมองว่าในช่วงทรัมป์ 2.0 ซึ่งทรัมป์อาจดำเนินนโยบายต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสที่ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต” นางวรสินีกล่าว  

อย่างไรก็ตาม กองทุน KFGPROP ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ กองทุน ES-GINCOME KFGPROP  และ TGOLD  ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 2 กด 4  

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ม.ค. 2568 เวลา : 12:58:39
24-01-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (23 ม.ค.68) ดัชนีอยู่ที่ 1,344.17 จุด ลบ 17.60 จุด

2. ประกาศ กปน.: 27 ม.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาชื่น

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 ม.ค.68) ลบ 5.60 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,356.17 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 2,745 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,780 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 ม.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 33.91 บาทต่อดอลลาร์

6. ทั่วไทยอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 4 องศา มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง "ยอดภู" 8 องศา

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.80-34.00 บาท/ดอลลาร์

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (22 ม.ค.68) บวก 11.70 เหรียญ นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำสินทรัพย์ปลอดภัย

9. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (22 ม.ค.68) บวก 130.92 จุด รับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศโครงการลงทุน AI

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ม.ค.68) ลบ 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.05 จุด

11. ข่าวดี!!! พรุ่งนี้น้ำมันลด "เบนซิน - แก๊สโซฮอล์" ลด 40 สต./ลิตร เว้น E85 ลด 50 สต.

12. ประกาศ กปน.: 28 ม.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบางนา-ตราด

13. ตลาดหุ้นปิด (22 ม.ค.68) บวก 9.24 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.77 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 ม.ค.68) บวก 7.15 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.68 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 2,720 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,770 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 24, 2025, 4:47 am