เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คลังเผย ภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2568


“เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะภาคใต้ อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นในหลายภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ควรติดตามสถานการณ์การลงทุนภาคเอกชนของภูมิภาคที่ชะลอตัว”

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะภาคใต้ อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นในหลายภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ควรติดตามสถานการณ์การลงทุนภาคเอกชนของภูมิภาคที่ชะลอตัว” โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อีกทั้งความเชื่อภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 15.7 6.4 และ 20.3 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -11.9 ต่อปี อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -19.3 และ -12.1 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 442.5 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานห้องเย็นและถนอมเนื้อสัตว์ด้วยวิธีทำให้เยือกแข็งโดยฉับพลันในจังหวัดสงขลา เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 86.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 83.2 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 และ 2.2 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเร่งขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 14.0 และ 1.6 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -12.5 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -16.0 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 60.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 61.4 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -29.1 และ -31.4 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 71.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 73.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 11.2 และ 8.5 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค ที่ขยายตัวเร่งขึ้น และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 11.0 และ 4.2 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -8.3 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -10.5 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 57.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -20.0 และ -7.1 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 90.5 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 91.8 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 และ 3.1 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว อีกทั้งความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 9.5 และ 1.9 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -15.7 และ -3.8 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 57.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.4 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 20.4 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -27.4 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 52.0 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตนมสเตอริไลส์ผสม และเครื่องดื่มแบบพร้อมดื่ม ในจังหวัดปทุมธานี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากสะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -1.4 และ -3.3 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากท่องเที่ยว และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -6.4 -23.9 และ -3.4 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้ง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 60.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 61.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -24.5 และ -17.8 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 25.0 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตภัณฑ์จากพลาสติกในจังหวัดชลบุรี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.4 ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าเครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 6.3 และ 2.0 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -0.6 -1.4 และ -2.6 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.4 3.4 และ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ อีกทั้งจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -14.0 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -13.2 และ -30.1 ต่อปี ตามลำดับ แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 8.3 และ 33.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 3.7 และ 3.5 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -2.8 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวอีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -22.6 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 99.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 0.5 และ 2.0 ต่อปี ตามลำดับ 

นอกจากนี้ ผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคของไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งสำรวจจากสำนักงานคลังจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพบว่า ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ในขณะที่กำลังซื้อสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคประชาชนซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาคโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรเป็นสำคัญ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคใน 6 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคกลาง และ กทม. และปริมณฑล ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากทุกองค์ประกอบของดัชนีทั้งภาคการผลิต การจ้างงาน และการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความผันผวนของสภาพอากาศ เศรษฐกิจโลก และการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 มี.ค. 2568 เวลา : 19:45:03
02-04-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 1 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาอุทิศ-วัดคู่สร้าง

2. ตลาดหุ้นปิด (1 เม.ย.68) บวก 9.93 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,168.02 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (1 เม.ย.68) บวก 15.74 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,173.83 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,110 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,160 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (31 มี.ค.68) บวก 417.86 จุด แต่ตลาดยังกังวลมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (31 มี.ค.68) ทำนิวไฮพุ่ง 36 เหรียญ รับแรงซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

7. "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต." ฝนฟ้าคะนอง 30% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคเหนือ 20% ภาคอีสาน 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.90-34.10 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (1 เม.ย.68) บวก 8.10 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,165.76 จุด

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (1 เม.ย. 68) พุ่งขึ้น 450 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,300 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (1 เม.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 5 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

13. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (31 มี.ค.68) ลบ 17.36 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,158.09 จุด

14. ประกาศ กปน.: 11 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (31 มี.ค.68) ลบ 17.41 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,158.04 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 2, 2025, 8:21 am