เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บมจ.ไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ "ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนจากความกังวลของการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ นโยบายของกลุ่มโอเปกพลัส ท่ามกลางความไม่แน่นอนของมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านและรัสเซีย"


ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 64-74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 69-79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (28 มี.ค. – 3 เม.ย. 68)
 
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนเนื่องจากตลาดกังวลความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งทิศทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มโอเปกพลัสที่เตรียมปรับเพิ่มกำลังการผลิต 138,000 บาร์เรลต่อวัน ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. 68 และได้ประกาศแผนลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการผลิตที่เกินกว่าระดับที่ตกลงกัน อีกทั้ง การเจรจายุติสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่ได้ข้อสรุป  ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของจีนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมันในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันของอิหร่านที่มีแนวโน้มปรับลดลง หลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อน้ำมันดิบอิหร่านที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งครอบคลุมถึงโรงกลั่นน้ำมันดิบขนาดเล็กในจีน และเรือขนส่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำมันดิบจากอิหร่านให้กับจีน

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้
 
• ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ซึ่งมีความผันผวนอย่างมาก จึงเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลง โดยล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศเก็บภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์นำเข้าทุกคันในอัตราร้อยละ 25 โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. 68 ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์สงครามการค้ารุนแรงขึ้นอีก
 
• ตลาดจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส ในการทยอยผ่อนคลายแผนปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเม.ย. 68 โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตเดือนละ 138,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นระยะเวลา 18 เดือน จนถึงเดือน ก.ย. 69 นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกพลัสได้ประกาศแผนใหม่ให้สมาชิก 7 ประเทศลดการผลิตเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการผลิตที่เกินกว่าระดับที่ตกลงกัน โดยจะลดการผลิตน้ำมันในแต่ละเดือนระหว่าง 189,000 ถึง 435,000 บาร์เรลต่อวัน โดยแผนดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ เดือนมี.ค. 68 จนถึงเดือน มิ.ย. 69 ทั้งนี้ ตลาดยังคงต้องติดตามทิศทางการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 5 เม.ย. 68
 
• ขณะที่ด้านการเจรจาหารือระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากล่าสุดคณะผู้แทนจากสหรัฐฯ และยูเครนจัดการเจรจาในซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องข้อตกลงหยุดยิง เนื่องจากยังคงถกเถียงขอบเขตของข้อตกลงหยุดยิงบางส่วน โดยทั้งสองฝ่ายมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเงื่อนไขข้อตกลง ขณะเดียวกัน ในระหว่างการเจรจา สถานการณ์ในยูเครนยังคงตึงเครียดอย่างหนัก รัสเซียได้ใช้โดรนโจมตีทางอากาศกว่า 147 ลำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของความขัดแย้งที่ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย
 
• เศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือน ม.ค - ก.พ. 68 ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และปรับตัวลดลงติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่สาม สร้างความกดดันให้รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้มข้นขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับร้อยละ 20  
 
• ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ มีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อน้ำมันดิบอิหร่านเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมาซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันดิบขนาดเล็กในจีนและเรือขนส่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำมันดิบจากอิหร่านให้กับจีน มาตรการนี้นับเป็นการคว่ำบาตรอิหร่านรอบที่ 4 ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนก.พ.68 โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะบังคับใช้มาตรการกดดันสูงสุดต่ออิหร่านอีกครั้งและจะผลักดันการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เหลือศูนย์ โดยตลาดคาดการณ์ว่าการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอาจปรับลดลงถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากสหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น
 
• ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้คือ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนียอดการใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้าง (Construction spending) เดือน ก.พ. 68 ตำแหน่งว่างงาน (JOLTS Job Openings) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั่วโลกของ S&P ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CPI) เดือน มี.ค. 68 อัตราการว่างงานเดือน มี.ค. 68 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. 68 และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เดือน มี.ค. 68

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 – 27 มี.ค. 68)
 
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 1.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 69.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 74.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 74.83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าการเจรจาหยุดยิงนำโดยสหรัฐฯ ระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่จะห้ามไม่ให้โจมตีในพื้นที่ทะเลดำ และโครงสร้างทางพลังงาน อาจทำให้มีการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบรัสเซียปรับเพิ่มได้ อีกทั้งตลาดยังคงกังวลผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากการขู่ขึ้นภาษีโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระดับ 25% ต่อประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบ และก๊าซจากเวเนซุเอลา โดยการขึ้นภาษีดังกล่าวคาดส่งผลให้โรงกลั่นในจีนบางแห่งที่ใช้น้ำมันดิบจากเวนเนซุเอลาหันไปจัดหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น อย่างไรก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 21 มี.ค. 68 ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 433.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดราว 956,000 บาร์เรล

  
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 มี.ค. 2568 เวลา : 11:42:50
02-04-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 1 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาอุทิศ-วัดคู่สร้าง

2. ตลาดหุ้นปิด (1 เม.ย.68) บวก 9.93 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,168.02 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (1 เม.ย.68) บวก 15.74 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,173.83 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,110 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,160 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (31 มี.ค.68) บวก 417.86 จุด แต่ตลาดยังกังวลมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (31 มี.ค.68) ทำนิวไฮพุ่ง 36 เหรียญ รับแรงซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

7. "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต." ฝนฟ้าคะนอง 30% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคเหนือ 20% ภาคอีสาน 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.90-34.10 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (1 เม.ย.68) บวก 8.10 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,165.76 จุด

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (1 เม.ย. 68) พุ่งขึ้น 450 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,300 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (1 เม.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 5 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

13. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (31 มี.ค.68) ลบ 17.36 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,158.09 จุด

14. ประกาศ กปน.: 11 เม.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (31 มี.ค.68) ลบ 17.41 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,158.04 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 2, 2025, 8:19 am