แบงก์-นอนแบงก์
สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1 ปี 2568 และทิศทางปี 2568


ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยข้อมูลสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยไตรมาส 1 ปี 2568 ชะลอตัว ชูมาตรการของรัฐบาลในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% และการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีส่วนสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวดีขึ้น ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เป็นต้นไป

 
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมีการชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท และการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลและ ธปท. ดำเนินมาตรการที่ตรงจุดในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดที่อยู่อาศัยตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เป็นต้นไป และคาดว่าจะส่งผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระยะยาวได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ไตรมาส 1 ปี 2568 การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีจำนวน 65,276 หน่วย ลดลงร้อยละ -10.5 มูลค่า 181,545 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -13.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยเป็นการชะลอตัวในทุกภูมิภาค เมื่อพิจารณาลงในรายละเอียดรายจังหวัด จะพบว่าบางจังหวัดยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดย 10 จังหวัดแรกที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยเป็นการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นทั้งหน่วยและมูลค่า ได้แก่ จังหวัดระยอง และสุราษฎร์ธานี โดยจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นแต่มูลค่าลดลง ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยลดลง แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลง ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี เชียงใหม่ และนครราชสีมา 

อย่างไรก็ดี การชะลอตัวของการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 ลดลงเช่นเดียวกัน โดยมีมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ทั่วประเทศ มูลค่า 109,368 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -10.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งมีมูลค่า 121,529 ล้านบาท สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในไตรมาส 1 ปี 2568 มีส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่สูงถึงร้อยละ 42.8 สะท้อนให้เห็นว่า ธอส. ยังคงเป็นสถาบันการเงินที่มีบทบาทในการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์
ของประเทศอย่างต่อเนื่อง 

ในด้านการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่า มีการชะลอตัวลงเช่นเดียวกันโดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3,919 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -0.5 มีมูลค่าการโอนจำนวนทั้งสิ้น 16,392 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -9.0 โดยคนต่างชาติมีสัดส่วนร้อยละ 29.3 ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ และ 3 สัญชาติแรกที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด ได้แก่  จีน มีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้น 1,481 หน่วย ลดลงร้อยละ -7.2 มูลค่า 6,117 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -19.2 อันดับ 2 พม่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ 439 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 มูลค่า 1,587 ล้านบาท ลดลงร้อยละ - 28.1 อันดับ 3 รัสเซีย มีการโอนกรรมสิทธิ์ 288 หน่วย ลดลงร้อยละ -2.4 มูลค่า 987 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9  
 
ทั้งนี้ จากค่าเฉลี่ยการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2568 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ส่งผลให้ REIC ปรับคาดการณ์ ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 โดยคาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว หรือชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2567 โดยมีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ปี 2568 ลดลงเพียงร้อยละ -0.3 ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงร้อยละ -0.8 และจำนวนสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ทั่วประเทศมีมูลค่าลดลงร้อยละ – 0.3 

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลจัดทำมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2568 - 30 มิถุนายน 2569 รวมทั้งการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยในทุกระดับราคา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 - 30 มิถุนายน 2569 จะสามารถแก้ปัญหาการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยได้ทันสถานการณ์ และส่งผลดีต่อตลาดที่อยู่อาศัยให้ฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 พ.ค. 2568 เวลา : 20:51:40
01-06-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 5 มิ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 2

2. ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (30 พ.ค.68) ลบ 14.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,149.18 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 พ.ค.68) ลบ 7.38 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,156.63 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับที่ระดับ 3,280 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,325 เหรียญ

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-33.70 บาท/ดอลลาร์

6. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 พ.ค.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (29 พ.ค.68) บวก 117.03 จุด ขานรับผลประกอบการอินวิเดีย แกร่งเกินคาด

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 พ.ค.68) บวก 21.50 เหรียญ นักลงทุนซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัยหลังข้อมูลแรงงานอ่อนแอ

9. พยากรณ์อากาศ (30 พ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนัก "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก" ฝน 70% ภาคกลาง 60% ภาคใต้ 20-30%

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (30 พ.ค.68) ปรับขึ้น 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,800 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (30 พ.ค.68) ลบ 8.41 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,155.60 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (29 พ.ค.68) บวก 3.27 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,164.01 จุด

13. ประกาศ กปน.: 7 มิ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 พ.ค.68) บวก 8.88 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,169.62 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 3,230 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,280 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 1, 2025, 10:05 pm