กองทุนรวม
ธ.ทิสโก้ จัดสัมมนา "Fight for Opportunties" รับมือสงครามการค้าระอุ ! ชู 3 ทางรอด สู้ศึกด้วย 6 กองทุนจาก 5 บลจ.


 
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) นำโดยนายพิชา รัตนธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจธนบดี และบริการธนาคาร จัดงานสัมมนา “Fight for Opportunties :เปิดศึก Battle กองทุนหมัดเด็ด” ให้แก่ลูกค้าและผู้ที่สนใจ ชู 3 ทางเลือกสู้ศึกลงทุนครึ่งหลังของปี 2568  ได้แก่ 1. ทางรอดเมื่อโลกแย่ 2. กำไรไม่แคร์สงครามการค้า 3. MEGATRENDS โตดี...ไม่ต้องลุ้น พร้อมเชิญ 6 ผู้จัดการกองทุนและผู้เชี่ยวชาญ จาก 5 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ร่วมดีเบตจุดเด่นของกองทุนรวมภายใต้การบริหารที่ธนาคารทิสโก้เลือกมาแล้วว่าเหมาะสำหรับจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง  
 
สำหรับ บลจ.ที่เข้าร่วมดีเบตในสัมมนาครั้งนี้ ได้แก่ บลจ.กรุงศรี บลจ.ทิสโก้ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) บลจ.วรรณ และ บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ร่วมดีเบตจุดเด่นของกองทุนรวมภายใต้การบริหารที่ธนาคารทิสโก้เลือกมาแล้วว่าเหมาะสำหรับจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง ได้แก่ กองทุนรวม TGOLD, UGIS-N, KF-HJAPAND, TISCOINA-A, ONE-UGG-RA และ ES-GCORE นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนายังมีกิจกรรมจากโรงพยาบาลกรุงเทพในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพของธนาคารทิสโก้ ร่วมให้บริการตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้นแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย 
 
 
เจาะ 3 ทางเลือกลงทุน โอกาสท่ามกลางสงครามการค้า 
 
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และนายภาคภูมิ พีรยวัฒนา Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในระหว่างงานสัมมนาว่า สงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูง เพื่อความชัดเจนธนาคารทิสโก้ประเมินเป็น 2 ทางคือ 1. กรณีเจรจาการค้าไม่สำเร็จใน 90 วัน และสหรัฐฯ ยังคงจัดเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูง หากเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะ “ถดถอย” และ 2. กรณีเจรจาการค้าเป็นไปในทิศทางที่ดีในกรอบ 90 วัน เศรษฐกิจในปี 2568 จะเติบโตแบบ “ชะลอตัว” และไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย  
 
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนหากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะ “ถดถอย” แนะนำให้ลงทุนด้วยทางเลือกที่ 1 คือ “ทางรอดเมื่อโลกแย่” โดยลงทุนใน 2 สินทรัพย์ คือ กองทุนทองคำ และกองทุนตราสารหนี้โลก ซึ่งข้อมูลในอดีตพบว่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอยตราสารหนี้โลกมีโอกาสสร้างผลตอบแทน 3-6% ขณะที่ทองคำจะสร้างผลตอบแทนประมาณ 5-16%    
 
ด้านกลยุทธ์ลงทุนเมื่อเจรจาการค้าเป็นไปในทิศทางที่ดี เศรษฐกิจแค่ชะลอตัว ธนาคารทิสโก้แนะนำ 2 ทางเลือกคือ 1. กำไรไม่แคร์สงครามการค้า แนะนำกองทุนที่เน้นลงทุนในประเทศญี่ปุ่นและอินเดีย เพราะเป็นประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยกว่าประเทศอื่น ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับ GDP และเศรษฐกิจเติบโตดีจากการบริโภคในประเทศ 2. MEGATRENDS โตดี...ไม่ต้องลุ้น แนะนำลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจที่เติบโตสูง เช่น ธุรกิจ AI เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน  
 
 
ทองคำ - ตราสารหนี้โลก ทางรอดเมื่อโลกแย่  
 
นายกันติพัฒน์ วงศ์สุคนธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายงานกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ (TGOLD) ความเสี่ยงระดับ 8 (เสี่ยงสูงมาก) ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในทองคําแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคําหักด้วยค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุนหลัก  
 
โดย บลจ.ทิสโก้มองว่าช่วงนี้เหมาะที่จะเพิ่มสัดส่วนกองทุนทองคำอย่าง TGOLD ไว้ในพอร์ตการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ต โดยจากสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนที่มีทองคำประมาณ 10% หุ้นโลก 60% และตราสารหนี้โลก 30% มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าพอร์ตการลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นโลก 60% และตราสารหนี้โลก 40% นอกจากนี้ ในอนาคตราคาทองคำมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามแรงซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก 
 
 
 
นายกุลฉัตร จันทวิมล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGIS-N) ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) ลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) กองทุนอาจพิจารณาลงทุนใน Derivatives เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก 
 
จุดเด่นของกองทุน UGIS-N คือ กองทุนหลักมีกลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุกทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุนให้สอดคล้องกับภาวะตลาด โดยกองทุนหลักจะกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูงที่มีลำดับการจ่ายชำระหนี้เป็นลำดับแรกๆ เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดผันผวน และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ 
 
ญี่ปุ่น - อินเดีย กำไรไม่แคร์สงครามการค้า 
 
นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ CFA ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดกรุงศรีเจแปนเฮดจ์ปันผล (KF-HJAPAND) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน JPMorgan Japan (Yen) Fund, Class (acc) - JPY (กองทุนหลัก) กองทุนหลักลงทุนในหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่นและหลักทรัพย์อื่น ๆ ซึ่งมีผลตอบแทนเกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยกองทุนหลัก มุ่งหวังให้ได้รับผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด  
จุดเด่นของกองทุน KF-HJAPAND คือ กองทุนหลักค่อนข้างใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการกองทุนเชิงลึก ทำให้สามารถค้นหาหุ้นน้ำดีซึ่งที่ราคายังไม่สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง เพราะปัจจุบันยังมีหุ้นคุณภาพดีในตลาดหุ้นญี่ปุ่นจำนวนมากที่ยังไม่มีบทวิเคราะห์เจาะลึกงบการเงินของบริษัท การที่ผู้จัดการกองทุนเข้าไปเฟ้นหาหุ้นแบบเชิงลึกทำให้กองทุนมีโอกาสลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังเน้นลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพดี เช่น ลงทุนในหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้มากกว่าต้นทุนทางการเงิน และมีสัดส่วนหนี้ค่อนข้างต่ำ โดยข้อมูลจาก J.P. Morgan Asset Management วันที่ 31 มีนาคม 2568 พบว่า บริษัทส่วนใหญ่ที่กองทุนเข้าลงทุนมักจะเป็นหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตดีตามโครงสร้างระยะยาว เช่น   เจ้าของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก, กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรอัตโนมัติและเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ 
 
นายสวภพ ยนต์ศรี ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายงานกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย แอคทีฟ อิควิตี้ (TISCOINA-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศอินเดีย หรือบริษัทที่มีการดําเนินธุรกิจในประเทศอินเดียหรือบริษัทที่มีรายได้หลักจากการประกอบกิจการในประเทศอินเดียมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด 
 
จุดเด่นของกองทุน TISCOINA-A คือ เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์ลงทุนเชิงรุกแบบ Fund of Funds จึงสามารถเลือกลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้หลากหลาย โดยปัจจุบันเลือกลงทุนใน 3 กองทุนต่างประเทศที่บริหารงานโดย Goldman Sachs Nomura และ FSSA ไว้ด้วยกัน ซึ่งมีข้อดีคือสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนเลือกลงทุนตามสถานการณ์ได้ทั้งหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่  นอกจากนี้ กองทุน TISCOINA-A ยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morningstars (ข้อมูลเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต 
 
 
หุ้นกลุ่ม MEGATRENDS โตดี...ไม่ต้องลุ้น 
 
นายรณวร ศุกระกาญจน์ รองผู้อำนวยการ, ฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ (ONE-UGG-RA) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class B net accumulation เน้นลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก นอกจากนั้น กองทุนหลักจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนอื่น และ/ หรือเงินฝากไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนหนึ่งโดยเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในหรือมี ไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน เงินฝาก หลักทรัพย์     
 
จุดเด่นของกองทุน ONE-UGG-RA คือ กองทุนหลักเน้นถือครองหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวเพื่อก้าวข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจต่างๆ ขจัดผลของอารมณ์และพฤติกรรมในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน สามารถลงทุนในหุ้นทั่วโลกโดยไม่จำกัดการลงทุนในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี รายได้และกำไรมีแนวโน้มเติบโตสูง มีสัดส่วนหนี้ในระดับต่ำ รวมทั้ง มองหาหุ้นที่มีโอกาสเติบโต 2 เท่าใน 5-10 ปี มีนวัตกรรมที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในอนาคต เช่น นวัตกรรมการแพทย์ ค้าปลีกออนไลน์ และกลุ่มเทคโนโลยีด้านการประมวลผล เป็นต้น 
 
นายบดินทร์ พุทธอินทร์, AISA, CFP หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Core Equity (ES-GCORE) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน Goldman Sachs Global CORE Equity Portfolio Class I Shares (Acc.) (Snap) โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 NAV กองทุนหลักลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่า ทรัพย์สินในตราสารทุนทั่วโลก โดยกองทุนหลักมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด  
 
จุดเด่นของกองทุน ES-GCORE คือ กองทุนหลักจะเลือกหุ้นโดยนำปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยเชิงสถิติมาประกอบการตัดสินใจเลือกหุ้นเข้าพอร์ต นอกจากนี้ ยังใช้ Big data มาช่วยค้นหาโอกาสจากการลงทุนทั้งในเชิงของการศึกษาหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และด้วยข้อมูลที่ได้มาอย่างรวดเร็วจาก AI ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาพอร์ตการลงทุนได้ทุกๆ 3 วัน นอกจากนี้ ยังนำมาค้นหาและสร้างมุมมองรายวันของหุ้นทั่วโลกกว่า 15,000 บริษัท ทำให้เพิ่มโอกาสการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย อีกทั้ง ยังลงทุนพัฒนานวัตกรรมและการวิจัยการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อมองหาผลตอบแทนส่วนเพิ่ม  
 
กองทุน TGOLD, UGIS-N, TISCOINA-A, ONE-UGG-RA และ ES-GCORE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้และกองทุน KF-HJAPAND  ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ  
 
กองทุน ONE-UGG-RA อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ และกองทุน UGIS-N อาจพิจารณาลงทุนใน Derivative เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน โดยกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุน ในต่างประเทศ ในกรณีสถานการณ์ไม่ปกติ กองทุนอาจพิจารณาป้องกันความเสี่ยง FX ตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุนผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 2 กด 4    
 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 พ.ค. 2568 เวลา : 11:48:31
07-06-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 14 มิ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

2. ตลาดหุ้นปิด (6 มิ.ย.68) ลบ 4.20 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,136.43 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (6 มิ.ย.68) ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ ฝั่ง ตต.ฝน 70% ภาคตะวันออก 60% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคเหนือ-ภาคกลาง 30%

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (6 มิ.ย. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,800 บาท

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (5 มิ.ย.68) ร่วง 24.10 เหรียญ เหตุนักลงทุนแห่เทขายทอง หลังเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯคืบหน้า

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (5 มิ.ย.68) ร่วง 108 จุด เหตุหุ้น Tesla ร่วงฉุดดัชนี หลังทรัมป์-มัสก์ บาดหมางรุนแรง

7. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (6 มิ.ย.68) ลบ 8.19 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,132.44 จุด

8. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (6 มิ.ย. 68) ลบ 1.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,138.99 จุด

9. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,350 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,390 เหรียญ

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (6 มิ.ย.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.61 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.75 บาท/ดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (5 มิ.ย.68) บวก 8.61 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,140.63 จุด

13. ประกาศ กปน.: 12 มิ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 3

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (5 มิ.ย.68) บวก 7.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,139.28 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,340 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,390 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 7, 2025, 7:19 am