เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "1H2568 เศรษฐกิจจีนเติบโตดีกว่าคาดที่ 5.3%YoY ทั้งปี 68 คาดเติบโตดีกว่าคาดการณ์เดิมที่ 4.8% "


ท่ามกลางปัจจัยกดดันเรื่องสงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง เศรษฐกิจจีนไตรมาส 2/2568 เติบโตชะลอลงเล็กน้อยจากไตรมาสแรก แต่ยังเติบโตในอัตราที่สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลโดยขยายตัวอยู่ที่ 5.2%YoY (รูปที่ 1) ปัจจัยหนุนหลักมาจากการเร่งส่งออกก่อนข้อยกเว้นภาษี 90 วันกับประเทศอื่น ๆ ยกเว้นจีนจะสิ้นสุดลง นอกจากนี้ โครงการของเก่าแลกของใหม่ (Trade-in Program) ยังเข้ามาช่วยหนุนการใช้จ่ายผู้บริโภค ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจจีนต่อเนื่อง  ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนครึ่งแรกของปี 2568 เติบโตดีกว่าคาดที่ 5.3%YoY (รูปที่ 2) 
 
 

 
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเศรษฐกิจจีนปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 4.8% จาก 4.2% หลังเศรษฐกิจจีนครึ่งปีแรกเติบโตดีกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568
 
เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตชะลอลง มีรายละเอียด ดังนี้ 
 
1. ครึ่งหลังของปี 2568 เศรษฐกิจจีนคาดจะยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างโครงการสินค้าเก่าแลกสินค้าใหม่ที่ยังมีวงเงินเหลืออยู่ (รูปที่ 3) แต่ผลของมาตรการต่อการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนคาดมีจำกัด หลังมีการเร่งซื้อสินค้าไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 

 

 
 
2. ทิศทางการส่งออกจีนครึ่งหลังของปียังขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บกับประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในอาเซียน รวมถึงเงื่อนไขที่สหรัฐฯ จะกำหนดเพิ่มขึ้นจากการส่งสินค้าผ่านประเทศที่สามอย่างที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากเวียดนาม ทั้งนี้ คาดว่าการส่งออกมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงหลังมีการเร่งส่งออกไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี อีกทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยล่าสุดสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงทางการค้าปรับลด Reciprocal Tariffs กันชั่วคราว 90 วัน สิ้นสุดวันที่ 12 ส.ค. 68 อย่างไรก็ดี อัตราภาษีคาดว่าจะไม่กลับไปอยู่ในระดับสูงเท่าช่วงเดือนเม.ย.68 ที่มีการตอบโต้ระหว่างกัน แต่อัตราภาษีที่สหรัฐฯ เก็บจากสินค้านำเข้าจีนที่ 51.1% ถือว่าอยู่ในระดับสูงที่จะทำให้การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มปรับลดลง   
 
3. ความเสี่ยงเงินฝืดที่จีนยังเผชิญอยู่ แม้ทางการจีนจะเน้นการส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตของผลผลิตในภาคการผลิตยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าการเติบโตของการบริโภคในประเทศ (รูปที่ 4) สะท้อนว่าผลผลิตภาคการผลิตของจีนยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งในระยะข้างหน้าจะยังสร้างแรงกดดันต่อปัจจัยทางด้านราคา โดยเฉพาะเมื่อการส่งออกเผชิญความเสี่ยงจากอัตราภาษีที่ปรับสูงขึ้น 

 

 
4. แนวทางการควบคุมเรื่องสงครามราคาในประเทศที่คาดว่าทางการจีนจะเริ่มเข้ามาออกมาตรการแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว แต่ในเบื้องต้นอาจทำให้ภาคธุรกิจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม เช่น การปรับลดเงินอุดหนุนในบางธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งยังต้องติดตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป 
 
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนที่มีทิศทางเติบโตชะลอลงจะส่งผลกระทบมาถึงไทยผ่านภาคการท่องเที่ยวที่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเริ่มเข้ามาในไทยน้อยลง โดยครึ่งแรกของปีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยลดลง (-34%YoY) รวมถึงปัญหาสินค้าราคาถูกในจีนจะยิ่งกดดันปัญหาสินค้าราคาถูกเข้าไทยในระยะต่อไป 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ก.ค. 2568 เวลา : 20:28:02
16-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (16 ก.ค.68) บวก 0.24 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,161.25 จุด

2. MTS Gold คาดราคาทองคำกลับเข้าสู่แนวโน้ม Sideways อีกครั้ง โดยมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,350 เหรียญ

3. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (15 ก.ค.68) ร่วง 436.36 จุด เหตุดัชนี CPI สูงเกินคาด

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (15 ก.ค.68) ร่วง 22.4 เหรียญ เหตุเงินเฟ้อสูงหนุนเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงต่อไป

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (16 ก.ค.68) ฝนตกหนักในภาคเหนือ 80% ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่งตต. 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคตะวันออก 60% ภาคกลาง-ภาคใต้ ฝั่งตอ. 40%

6. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (16 ก.ค. 68) ลบ 2.53 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,158.48 จุด

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (16 ก.ค. 68) ร่วงลง 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,150 บาท

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (16 ก.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นปิด (15 ก.ค.68) บวก 17.70 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,161.01 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (15 ก.ค.68) บวก 5.91 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,149.22 จุด

12. MTS Gold คาดราคาทองมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 3,325 เหรียญ และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,370 เหรียญ

13. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (14 ก.ค.68) ร่วง 4.9 เหรียญ นักลงทุนขายทองทำกำไรหลังราคาพุ่ง

14. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (14 ก.ค.68) บวก 88.14 จุด นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย หลังทรัมป์ประกาศรีดภาษี EU และเม็กซิโก

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (15 ก.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก" ฝนฟ้าคะนอง 60% ภาคกลาง 40% ภาคใต้ 40-60%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 16, 2025, 3:54 pm