(123)(289).jpg)
ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 17 ราย กรณีสร้างราคาหรือปริมาณหุ้นของบริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 264,791,946 บาท พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2561 - 2562 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้กระทำความผิด 17 ราย ซึ่งมีความสัมพันธ์กันในทางส่วนตัว เส้นทางการเงิน หรือผ่านการเชื่อมโยงกับบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกัน ตลอดจนที่มาของการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และพฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ ได้แก่ (1) นางสาวธัญญรัตน์ สุขสวัสดิ์ (2) นายกิตติพัชญ์ สุขสวัสดิ์ (3) นายวัลลภ สุขสวัสดิ์ (4) นายคนึงนิจ จินดา (5) นางวาสนา วิริยาทรพันธุ์ (6) นางสาวทัศนีย์ วงษ์จิราษฎร์ (7) นางสาวสุนีย์ แซ่โล้ (8) นายฐิติกรณ์ ฟูเกษม (9) นายสราวุธ อุดมธรรม (10) นางสุจิตร อุดมธรรม (11) นายไกรวุฒิ ดิษฐจร (12) นางเอมอร สิริพาณิชยกิจ (13) นายประสพสุข สวัสดี (14) นายฐนริศร์ พรพัฒนะแจ่มใส (15) นางสาวอัจฉราภรณ์ ราชนาจันทร์ (16) นายพุฒิธร ตามธรรม ได้รู้เห็นหรือตกลงกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำในการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน และ/หรือยินยอมให้บุคคลอื่นเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นของ ECF ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตน ในลักษณะสอดรับและสนับสนุนซึ่งกันและกันในการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น ECF โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมี (17) นายศุภฤกษ์ แคว้นน้อย ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายฐนริศร์ และนางสาวอัจฉราภรณ์ โดยการกระทำดังกล่าวแบ่งได้เป็น 3 ช่วงเวลา แล้วแต่กรณี ดังนี้
ช่วงเกิดเหตุที่ 1 ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม 2560 ถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2560 ผู้กระทำความผิด 16 ราย ได้แก่ นางสาวธัญญรัตน์ นายกิตติพัชญ์ นายวัลลภ นายคนึงนิจ นางวาสนา นางสาวทัศนีย์ นางสาวสุนีย์ นายฐิติกรณ์ นายสราวุธ นางสุจิตร นายไกรวุฒิ นางเอมอร นายประสพสุข นายฐนริศร์ นางสาวอัจฉราภรณ์ และนายพุฒิธร ได้ร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำในการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น ECF โดยส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น ECF ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ช่วงเกิดเหตุที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 23 เมษายน 2561 ผู้กระทำผิด 15 ราย ได้แก่ นางสาวธัญญรัตน์ นายกิตติพัชญ์ นายคนึงนิจ นางวาสนา นางสาวทัศนีย์ นางสาวสุนีย์ นายสราวุธ นางสุจิตร นายไกรวุฒิ นางเอมอร นายประสพสุข นายฐนริศร์ นางสาวอัจฉราภรณ์ และนายพุฒิธร ได้ร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำในการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น ECF โดยส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น ECF ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีนายศุภฤกษ์ ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายฐนริศร์และนางสาวอัจฉราภรณ์
ช่วงเกิดเหตุที่ 3 ระหว่างวันที่ 24 เมษายน 2561 ถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ผู้กระทำผิด 14 ราย ได้แก่ นางสาวธัญญรัตน์ นายกิตติพัชญ์ นายวัลลภ นางวาสนา นางสาวทัศนีย์ นายสราวุธ นางสุจิตร นายไกรวุฒิ นางเอมอร นายประสพสุข นายฐนริศร์ นางสาวอัจฉราภรณ์ และนายพุฒิธร ได้ร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำในการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น ECF โดยส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น ECF ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีนายศุภฤกษ์ ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายฐนริศร์และนางสาวอัจฉราภรณ์
การกระทำของกลุ่มผู้กระทำผิดทั้ง 16 ราย ได้แก่ นางสาวธัญญรัตน์ นายกิตติพัชญ์ นายวัลลภ นายคนึงนิจ นางวาสนา นางสาวทัศนีย์ นางสาวสุนีย์ นายฐิติกรณ์ นายสราวุธ นางสุจิตร นายไกรวุฒิ นางเอมอร นายประสพสุข นายฐนริศร์ นางสาวอัจฉราภรณ์ และนายพุฒิธร เป็นความผิดฐานร่วมกันสร้างราคาหลักทรัพย์ ตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5 และ/หรือมาตรา 244/6(3) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) แล้วแต่กรณี ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนการกระทำของนายศุภฤกษ์ เป็นความผิดตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 315 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับผู้กระทำความผิดทั้ง 17 ราย ดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัท
ที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ดังนี้
(1) ให้นางสาวธัญญรัตน์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 5,379,046 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 45 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 90 เดือน
(2) ให้นายกิตติพัชญ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,542,556 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 45 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 90 เดือน
(3) ให้นายวัลลภ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 38,652,217 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
เป็นเวลา 56 เดือน
(4) ให้นายคนึงนิจ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 21,810,201 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 22 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 44 เดือน
(5) ให้นางวาสนา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 32,439,901 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 31 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 62 เดือน
(6) ให้นางสาวทัศนีย์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 13,677,611 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(7) ให้นางสาวสุนีย์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 12,209,933 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 19.5 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 39 เดือน
(8) ให้นายฐิติกรณ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 51,944,600 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 11 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 22 เดือน
(9) ให้นายสราวุธ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 14,079,018 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(10) ให้นางสุจิตร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 7,448,531 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(11) ให้นายไกรวุฒิ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 5,374,006 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(12) ให้นางเอมอร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 10,104,518 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(13) ให้นายประสพสุข ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 14,951,313 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(14) ให้นายฐนริศร์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 21,841,493 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(15) ให้นางสาวอัจฉราภรณ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือ
พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 10,762,672 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(16) ให้นายพุฒิธร ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,542,556 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 28 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 56 เดือน
(17) ให้นายศุภฤกษ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบ
การกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,031,774 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 12.5 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 25 เดือน
มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุด
ที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
ข่าวเด่น