หุ้นทอง
MGC-ASIA รับข่าวดี 2 เด้ง โชว์งบไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิพุ่ง 2,526% เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.14 บาท/หุ้น


โชว์งบไตรมาส 3/2568 กำไรสุทธิพุ่ง 2,526% (YoY) ก้าวเข้าสู่การเติบโตเชิงโครงสร้างที่แข็งแรงที่สุด
ในรอบหลายปี จากพอร์ตรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มพรีเมียม BMW และ Smart EV XPENG ที่สอดคล้องกับ
โมบิลิตี้เทรนด์ของโลก สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.14 บาท/หุ้น


 
กรุงเทพฯ - บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA เสิร์ฟข่าวดี 2 เด้ง โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 แตะ 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,526% (YoY) และมีรายได้รวมแตะ 5,859 ล้านบาท เติบโต 29% (YoY) ขณะที่งวด 9 เดือนแรก กำไรสุทธิ 362 ล้านบาท เติบโต 619% (YoY) ผลลัพธ์จากการควบคุมและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ก้าวสู่ยุคแห่งการเติบโตเชิงโครงสร้างที่แข็งแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยไตรมาส 3/2568 สะท้อนคุณภาพการเติบโตของ MGC-ASIA อย่างชัดเจนจากยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มพรีเมียม BMW ‘The i7’ ซึ่งทาง มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ครอง market share สูงสุด, ยานยนต์ไฟฟ้า Smart EV XPENG ผู้นำตลาดพรีเมียม EV อัจฉริยะ สอดคล้องกับโมบิลิตี้เทรนด์ของโลกในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพ รวมถึงบริหารด้านกลยุทธ์และเครือข่ายผู้จำหน่ายได้อย่างครบวงจร, ZEEKR รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชัวรี่ที่ได้รับความนิยมสูง ขณะที่บริการหลังการขายและธุรกิจรถยนต์มือสอง สร้างรายได้ประจำให้บริษัทฯ ผสานแรงขับเคลื่อนทางการเงินของ ALPHA X และประกันภัย Howden Maxi ที่ร่วมสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.14 บาท พร้อมเดินเกมรุกด้วยศักยภาพของ MGC Ecosystem ที่ครอบคลุมทุกมิติ

 
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,526% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีรายได้รวม 5,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% (YoY) ส่งผลให้มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) แตะ 738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% (YoY) ทำให้ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 619% (YoY)และมีรายได้รวม 14,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% (YoY)  ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) แตะ1,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% (YoY) จากการควบคุมและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น ส่งผลให้คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาทโดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 (Record Date) และกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 พร้อมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในวันที่ 12 ธันวาคม 2568

 
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA เปิดเผยว่า ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทฯมุ่งเน้นการวางแผนธุรกิจอย่างชัดเจนและครอบคลุม โดยทิศทางไตรมาสสุดท้าย (ไตรมาส 4/2568) มีแนวโน้มดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และเป็นช่วงตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ นอกจากนี้ยังมีการนำรถยนต์เข้ารับบริการหลังการขาย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงวันหยุดยาว ทำให้บริษัทฯได้เดินหน้ากระตุ้นยอดขายแบบครบวงจรภายใต้ MGC Ecosystem อย่างต่อเนื่อง  โดยล่าสุด XPENG เพิ่งเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะเพิ่มอีก 1 รุ่น คือ ‘G6 Standard Range’  ที่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่ได้รับ นับว่าคุ้มค่ากับราคา 1,189,000 บาท ส่วนรถตู้ไฟฟ้าอัจฉริยะยอดนิยม XPENG X9 ขึ้นเป็นอันดับ 1 ด้านยอดจดทะเบียนสะสม 5 เดือนต่อเนื่อง และ MGC-ASIA ก็เตรียมจัดทัพใหญ่ร่วมงาน Motor Expo 2025 ครั้งที่ 42 วันที่ 29 พ.ย.–10 ธ.ค. 68 เพื่อกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี คาดว่าจะได้รับออเดอร์ใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เป็นการเพิ่มยอด Backlog ที่รอส่งมอบ ณ ปัจจุบัน (12 พ.ย. 2568) อยู่ที่ 634 คัน แบ่งเป็น  XPENG 129 คัน, ZEEKR 91 คัน, Rolls-Royce 7 คัน, BMW 135 คัน, MINI 30 คัน, HONDA 163 คัน, Harley-Davidson 44 คัน, BMW Motorrad 34 คัน และเรือแม่น้ำ Chris-Craft จำนวน 1 ลำ

 
จากกลยุทธ์ดังกล่าวสะท้อนถึงผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2568 ของบริษัทฯ ที่มีการเติบโต
อย่างโดดเด่น แบ่งเป็น ธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ : มีรายได้อยู่ที่ 10,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% (YoY) เนื่องจากยอดจองซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda และโดยเฉพาะ XPENG ที่มีกระแสตอบรับดีเกินคาด นับเป็นการเติบโตที่สำคัญที่สุดของกลุ่มในปีนี้ การันตีด้วยรางวัลระดับโลก ‘Best Organization Award 2025’ จากบริษัทแม่ กับเครือข่ายผู้จำหน่าย 15 รายในปัจจุบัน พร้อมแผนการขยายอีก 6 ดีลเลอร์ รวมเป็น21 สาขา ช่วงไตรมาส 1/2569

กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ : มีรายได้ 2,849 ล้านบาท จากยอดใช้บริการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งศูนย์บริการซ่อมบำรุงรถยนต์แบบครบวงจร (One-Stop Service) ตอกย้ำถึงศักยภาพการให้บริการด้านการจัดการ งานบริการซ่อมได้ครอบคลุมตามมาตรฐานสากล ทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้สามารถสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง  

กลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่า และพนักงานขับ : มีรายได้ 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% (YoY)จากการเพิ่มจำนวนรถฟลีท โดยเฉพาะฟลีทรถยนต์ BMW, MINI และรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำ เพื่อรองรับการปล่อยเช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตามความต้องการที่สูงขึ้น และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

กลุ่มธุรกิจอื่นๆ : มีรายได้อยู่ที่ 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% (YoY) โดยมาจากการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตใกล้เคียงตามแผนที่วางไว้ โดยในส่วนธุรกิจให้บริการด้านการเงิน ภายใต้ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด (Alpha X) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) โดยมีการเติบจากรายได้ของพอร์ตสินเชื่อเพื่อความมั่งคั่ง (Wealth Lending) ส่งผลให้กำไรก่อนสำรองเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

 
นอกจากนี้ ธุรกิจบริการประกันภัย ที่บริหารงานโดย บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (Howden Maxi) สามารถทำรายได้แตะระดับ 91 ล้านบาท เติบโต 21.1% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 26 ล้านบาท จากยอดขายในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างโดดเด่น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 พ.ย. 2568 เวลา : 17:40:32
17-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (17 พ.ย.2568) บวก 10.81 จุด ดัชนี 1,280.07 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 พ.ย.68) บวก 3.64 จุด ดัชนี 1,272.90 จุด

3. MTS Gold ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,055-4,035 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,130 -4,150 เหรียญ

4. อุตุฯ เตือนประเทศไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง "ยอดดอย" หนาวจัด 7 องศา

5. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.80 รอข้อมูลสหรัฐฯ

6. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 พ.ย.68) ลบ 2.17 จุด ดัชนี 1,267.09 จุด

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55บาท/ดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (17 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 63,650 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

15. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 17, 2025, 10:55 pm