
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงประมาณ 1% ปิดระดับต่ำสุดในรอบเดือน หลังสหรัฐฯ เดินหน้าผลักดันแผนสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียเพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี ซึ่งอาจเปิดทางให้รัสเซียส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย ได้แก่ Rosneft และ Lukoil รวมถึงท่าทีของยูเครนต่อข้อเสนอของสหรัฐฯ ทำให้แรงซื้อในตลาดซบเซา
(-) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ส่งผลให้น้ำมันที่ซื้อขายเป็นดอลลาร์มีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ซื้อทั่วโลก ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อความต้องการน้ำมันในตลาดโลก
(-) ความไม่แน่นอนด้านอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงท่าทีแตกต่างกัน โดย ลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาดัลลัส แนะนำให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ชั่วคราว ขณะที่ซูซาน คอลลินส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาบอสตัน ชี้ว่านโยบายการเงินอยู่ในจุดเหมาะสม และจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ระบุว่าสามารถลดดอกเบี้ยในระยะใกล้โดยไม่กระทบเป้าหมายเงินเฟ้อ ทำให้ความไม่แน่นอนนี้ยังจำกัดแรงซื้อของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น น้ำมัน
(-) กิจกรรมการผลิตของโรงงานสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ชะลอลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากต้นทุนสินค้านำเข้าที่สูงขึ้นและภาษีนำเข้า ซึ่งทำให้ความต้องการซื้อสินค้าลดลงและสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งอาจกดดันความต้องการน้ำมันในภาพรวม
ข่าวเด่น