เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "ยอดขายทีวีไทยได้แรงหนุนจากตลาดพรีเมียม คาดปี 2026 โต 1.3%"


· ทีวียังเป็นอุปกรณ์หลักในการรับชมในยุคสตรีมมิ่ง โดยจากผลสำรวจพบว่า ผู้ชมสูงถึง 56% รับชมสตรีมมิ่งผ่าน smart TV

· ราคา smart TV จอใหญ่ระดับ 65-77 นิ้ว ลดลงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 14.7% ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา หนุนให้ผู้บริโภคอัปเกรดขึ้นสู่รุ่นที่มีสเปกสูงกว่าเดิม

· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ามูลค่าตลาดทีวีไทยในปี 2026 จะอยู่ที่ 21,210 ล้านบาท ขยายตัว 1.3%

พฤติกรรมการรับชมเปลี่ยนแต่ทีวียังคงเป็นอุปกรณ์หลักของคนไทย

จากผลสำรวจในปี 2024 คนไทยนิยมดูสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปีก่อนหน้า เป็น 47% ในขณะที่การดูทีวีสดลดลงจาก 63% เป็น 53% ในช่วงเวลาเดียวกัน (รูปที่ 1)


 
 
การลดลงของการดูทีวีสดไม่ได้หมายความว่าคนไทยเลิกใช้ทีวี แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนแพลตฟอร์มการรับชม ผลสำรวจจาก Nielsen 2024 สะท้อนว่าแม้ผู้บริโภคหันไปดูสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้น แต่จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดมีการใช้ smart TV ในการรับชมสตรีมมิ่งกว่า 56% แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังคงต้องการประสบการณ์รับชมบนหน้าจอใหญ่ ผ่านแอปสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น YouTube และ Netflix

ความต้องการอัปเกรดและราคาจอใหญ่ลดลง หนุนการขยายตัวของตลาดพรีเมียม

90% ของครัวเรือนไทยมีทีวี แต่สัดส่วนของ smart TV อยู่เพียง 45% (รูปที่ 3) บ่งชี้ว่าตลาดยังมีช่องว่างสำหรับการอัปเกรดทีวีขึ้นเป็นรุ่นที่รองรับสตรีมมิ่งได้ดีขึ้นในอนาคต

 
 
จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้ทีวีสำหรับการดูสตรีมมิ่ง ทำให้ทีวีพรีเมียมเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะ smart TV หน้าจอใหญ่ ซึ่งปัจจุบัน smart TV หน้าจอใหญ่ครองสัดส่วนตลาดทีวีไทยอยู่ราว 35% ของยอดขายทีวีทั้งหมด

ปัจจัยหนุนสำคัญคือ ราคา smart TV จอใหญ่ 65-77 นิ้วที่ลดลงเฉลี่ยปีละ 14.7% ในช่วง 8 ปี (รูปที่ 4) ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงทีวีระดับพรีเมียมได้ง่ายขึ้น และเพิ่มแรงจูงใจในการอัปเกรดสู่รุ่นที่ให้คุณภาพภาพและเสียงที่ดียิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกัน การเติบโตของการรับชมสตรีมมิ่งทำให้ผู้ซื้อให้ความสำคัญกับ ระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยและการอัปเดตซอฟต์แวร์ต่อเนื่อง ส่งผลให้ วงจรเปลี่ยนทีวีสั้นลงเหลือเพียง 4-5 ปี จากเดิม 7-8 ปี

นอกจากนี้ เทรนด์ AI TV ยังเร่งการขยายตัวของตลาดพรีเมียม โดยผลสำรวจพบว่า รุ่นทีวีใหม่กว่า 91% ในปี 2025 มาพร้อมเทคโนโลยี AI ในการปรับภาพ เสียง และการใช้งานแบบอัจฉริยะ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์รับชมและหนุนให้ผู้บริโภคเปลี่ยนทีวีเร็วขึ้น

ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าตลาดทีวีไทยในปี 2026 จะอยู่ที่ 21,210 ล้านบาท ขยายตัว 1.3% (รูปที่ 5)

 
 
ความเสี่ยงของธุรกิจทีวี

· ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวกดดันการตัดสินใจซื้อทีวีเครื่องใหม่ แม้ราคาเฉลี่ยต่อเครื่องลดลง แต่ความต้องการอัปเกรดอาจถูกกดทับจากภาวะกำลังซื้อต่ำ

· แนวโน้มผู้บริโภคย้ายไปใช้หลายอุปกรณ์ เช่น มือถือ แท็บเล็ต โปรเจคเตอร์ ทำให้ทีวีไม่ได้เป็นอุปกรณ์หลักในทุกบ้านเหมือนเดิม โดยเฉพาะในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น คอนโด

· ฟีเจอร์ AI อาจไม่ใช่จุดขายในอนาคต เพราะทุกแบรนด์เริ่มมีเหมือนกันหมด ผู้บริโภคจะไม่รู้สึกว่า AI เป็นจุดเด่นอีกต่อไป ทำให้ผู้ผลิตต้องหาฟีเจอร์ใหม่มาเพิ่มตลอด ซึ่งเพิ่มต้นทุนและความเสี่ยงในการพัฒนา

· อายุการใช้งานของทีวีที่ยาวนาน โดยเฉลี่ยมากกว่า 4 ปี ส่งผลให้ความจำเป็นในการเปลี่ยนทีวีเครื่องใหม่ไม่สูงนัก ทำให้ผู้ประกอบการอาจจะต้องมีโปรโมชัน เช่น นำทีวีเก่ามาแลกเป็นส่วนลดในการซื้อทีวีใหม่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนทีวี

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ธ.ค. 2568 เวลา : 16:49:25
04-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 ธ.ค.68) ลบ 1.05 จุด ดัชนี 1,273.77 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ธ.ค.68) ลบ 1.62 จุดดัชนี 1,273.20 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 ธ.ค.68) บวก 5.60 จุด ดัชนี 1,280.42 จุด

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,400 บาท

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.90 บาทต่อดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) บวก 11.70 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยหลังจ้างงานอ่อนแอ

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) พุ่ง 408.44 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลงหนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองในภาคอีสาน-ภาคตะวันออก-ภาคใต้

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

10. MTS Gold คาดราคาทองคำในระยะสั้นกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ (Sideway) ระหว่าง 4,190 ถึง 4,235 เหรียญ

11. ตลาดหุ้นปิด (3 ธ.ค.68) ลบ 2.76 จุด ดัชนี 1,274.82 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 ธ.ค.68) ลบ 2.24 จุดดัชนี 1,275.34 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำได้กลับเข้าสู่สภาวะทรงตัว ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,190-4,170 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,270 เหรียญ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ธ.ค.68) ร่วง 54 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนแห่ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งติดต่อกัน 6 วัน

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (3 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 4, 2025, 5:30 pm