กองทุนรวม
SCB WEALTH ผนึกฮั่วเซ่งเฮงมองปีหน้าทองคำยังเป็นขาขึ้น หนุนกระจายพอร์ตสู่ตปท.ใช้บัญชี FCD ลงทุนทองคำในเงินดอลลาร์


   

SCB WEALTH จัดสัมมนาในหัวข้อ Golden Portfolio Defense in a Volatile Era: ทองคำ สมอเรือแห่งพอร์ตการลงทุนยุคผันผวน ในงาน SCB WEALTH:Holistic Wealth Forum 2025 ภายใต้ธีม Storm Shift  โดยฮั่วเซ่งเฮง ประเมิน ทองคำในปี 2569 ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก คาดราคาอาจมีโอกาสแตะระดับ 4,700 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ขณะเดียวกัน SCBFM คาดว่าค่าเงินบาทปีหน้าจะผันผวนอยู่ในกรอบ 33.00 -34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แนะนักลงทุนกระจายเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างประเทศ และพิจารณาเปิดบัญชี FCD เพื่อบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
 
นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยในงานสัมมนา SCB WEALTH : Holistic Wealth Forum 2025 ภายใต้ธีม Storm Shift ในหัวข้อ Golden Portfolio Defense in a Volatile Era : ทองคำ สมอเรื่องแห่งพอร์ตการลงทุนยุคผันผวน ว่า ราคาทองคำต่างประเทศ ในปี 2568 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 4,381 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ให้ผลตอบแทนสูงถึง 67% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 46 ปี ขณะที่ราคาทองคำในประเทศไทย แตะระดับสูงสุดที่ 67,400 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 59% สำหรับแนวโน้มภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าราคาทองคำโลกจะเคลื่อนไหวบริเวณ 4,200 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์  ส่วนในปี 2569 แม้ว่าราคาทองคำจะอยู่ในระดับสูงแล้ว แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำขยับขึ้นต่อได้ เพียงแต่ผลตอบแทนอาจไม่ได้สูงเท่ากับในปี 2568 โดยคาดว่าราคาทองคำโลก สิ้นปี 2569 อาจมีโอกาสแตะที่ระดับ 4,700 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์  
 
จากมุมมอง 11 สถาบันการเงินชั้นนำของโลก มองว่า ราคาทองคำในตลาดโลกปี 2569 ยังมีโอกาสขึ้นสู่ระดับ 4,500 - 5,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หาก 3 ปัจจัยนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน อันได้แก่ 1) ความไม่แน่นอนของมาตการตอบโต้ภาษีการค้า 2) การเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นของธนาคารกลางหลายประเทศเพื่อเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ และ 3) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ถูกแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ปัจจัยเพิ่มเติมที่หนุนราคาทองคำ ได้แก่ หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น และกระแสความพยายามลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก (De-dollarization)
 
ทั้งนี้ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนได้ดีในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวน แต่หากสะสมทองคำมากเกินไปก็อาจจะทำให้เสียโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ แม้ในปีนี้ทองคำจะให้ผลตอบแทนสูง แต่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตในระยะยาว ไม่ใช่ให้ผลตอบแทนกว่า 60% ต่อปีแบบนี้ทุกปี ดังนั้น ไม่แนะนำให้นักลงทุนกระโดดเข้าไปลงทุนในช่วงที่ราคาสูง อาจทยอยเข้าซื้อในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงมาอยู่ในระดับ 3,700-3,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
 
“นักลงทุนไม่ควรเพิ่มสัดส่วนทองคำมากเกินไป เพราะอาจทำให้เสียโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ และไม่ควรไล่ซื้อในช่วงราคาสูง มองว่า ช่วง 3,700 -3,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เป็นระดับที่เหมาะสมในการทยอยสะสม” นายธนรัชต์ กล่าว
 
สำหรับพฤติกรรมนักลงทุนไทยเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการซื้อทองคำแท่งเพื่อออมมากขึ้น ขณะที่การซื้อเพื่อเป็นเครื่องประดับลดลง และอายุเฉลี่ยของนักลงทุนในทองคำลดลงเหลือ 20 -30 ปี จากอดีตที่นิยมเริ่มลงทุนเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีเงินเก็บสะสมสามารถซื้อทองคำแท่งได้ แต่ปัจจุบันมีช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์มการลงทุนในทองคำที่หลากหลาย เช่น กองทุน ETF ทองคำ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ซื้อ-ขายแบบเรียลไทม์ ทำให้ราคาทองคำมีความผันผวนมากขึ้นตามพฤติกรรมการซื้อ-ขายที่รวดเร็ว
 
นายแพททริก ปูเลีย รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets : SCB FM) กล่าวว่า ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและดอกเบี้ยเข้าสู่ช่วงขาลง ทองคำมักให้ผลตอบแทนได้ดี  เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อได้ อีกทั้งราคาทองคำในตลาดโลกและเงินบาทมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับสูง กล่าวคือ เมื่อราคาทองคำเพิ่มขึ้น เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าตาม จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำด้วยสกุลเงินบาทแตกต่างจากการลงทุนทองคำด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 
 
ในช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่าเงินบาทอาจแข็งค่าอีกเล็กน้อย เนื่องจาก 1) เทรนด์การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงปลายปี 2) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยได้อีก 1 ครั้ง ในเดือนธันวาคม และ3) สกุลเงินภูมิภาคอาจแข็งค่าได้ในระยะสั้น หนุนให้บาทแข็งค่าตามได้ 
 
ส่วนในปี 2569 มองว่าเงินบาทอาจกลับมาอ่อนค่าได้ เนื่องจาก 1) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น จากเทรนการลงทุนด้าน AI ที่จะดำเนินต่อไป หนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเงินทุนที่มีแนวโน้มไหลเข้าสหรัฐฯ 2) เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอลง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจเพิ่มขึ้นในปีหน้าและ 3) ราคาทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้นในอัตราที่น้อยลง รวมถึงผลของราคาทองคำต่อเงินบาทอาจมีน้อยลง โดยมองกรอบเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐปลายปี 2569  อยู่ที่ประมาณ 33.00 -34.00 บาท 
 
นักลงทุนไทยยังเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก (Home Bias) โดยลงทุนในต่างประเทศเพียง 10%ของเงินลงทุนรวมทั้งหมด ในขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกมากกว่า 20% จึงขอแนะนำให้กระจายพอร์ตไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน การเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินตราต่างประเทศ (FCD) เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ลงทุนบริหารสกุลเงินได้อย่างยืดหยุ่น โดย ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2568  พบว่า มูลค่าเงินฝากในบัญชี FCD ของไทย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 จำนวนบัญชีเพิ่มจาก 120,000 บัญชี เป็น 7.2 ล้านบัญชี 
หมายเหตุ : ข้อมูลจากงาน SCB WEALTH : Holistic Wealth Forum 2025 ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ทั้งนี้ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา ผู้ใช้ข้อมูลควรใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุน

คำเตือน 
• การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงควร ขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน  
 
• เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
 
• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ธ.ค. 2568 เวลา : 11:48:23
05-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 ธ.ค.68) ลบ 1.05 จุด ดัชนี 1,273.77 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 ธ.ค.68) ลบ 1.62 จุดดัชนี 1,273.20 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 ธ.ค.68) บวก 5.60 จุด ดัชนี 1,280.42 จุด

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,400 บาท

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.90 บาทต่อดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) บวก 11.70 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยหลังจ้างงานอ่อนแอ

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 ธ.ค.68) พุ่ง 408.44 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลงหนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองในภาคอีสาน-ภาคตะวันออก-ภาคใต้

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

10. MTS Gold คาดราคาทองคำในระยะสั้นกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ (Sideway) ระหว่าง 4,190 ถึง 4,235 เหรียญ

11. ตลาดหุ้นปิด (3 ธ.ค.68) ลบ 2.76 จุด ดัชนี 1,274.82 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 ธ.ค.68) ลบ 2.24 จุดดัชนี 1,275.34 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำได้กลับเข้าสู่สภาวะทรงตัว ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,190-4,170 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,270 เหรียญ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ธ.ค.68) ร่วง 54 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนแห่ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งติดต่อกัน 6 วัน

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (3 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 5, 2025, 10:38 pm