เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Krungthai CIO ประเมินตลาดเผชิญแรงกดดันจากเฟด - บีโอเจ แนะกลยุทธ์ Barbell รับความเสี่ยงสองทิศทาง


Krungthai CIO มองตลาดการเงินโลกแกว่งตัวก่อนประชุม FOMC 9-10 ธ.ค. 68 ตลาดมองโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% เกือบ 90% หลังตัวเลขจ้างงานเอกชนและเงินเฟ้อพื้นฐานต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง ขณะที่บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ปรับขึ้นและทองคำอ่อนตัวจากแรงขายทำกำไร ท่ามกลางความผันผวน แนะผู้ลงทุนจัดพอร์ตตามกลยุทธ์ Barbell พร้อมกระจายไปยังสินทรัพย์ทางเลือก

ทีมกลยุทธ์การลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office)  วิเคราะห์ตลาดและการลงทุนรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม 2568 ว่า นักลงทุนจับตาการประชุม Fed ที่จะเผยแพร่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) ใหม่ โดยคงมุมมองว่า Fed จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยและคง Dot Plot เหมือนเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเผชิญความเสี่ยง หาก Dot Plot ส่งสัญญาณเข้มงวดขึ้น กดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงและผลักดันบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ขึ้นได้

ด้านญี่ปุ่น การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 18-19 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ อยู่ในความสนใจ หลัง BOJ ส่งสัญญาณพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.50% เป็น 0.75% ท่าทีเข้มงวดมาจากเงินเฟ้อพื้นฐานในโตเกียวสูงและค่าเงินเยนอ่อน Krungthai CIO คาด BOJ อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากความผันผวนตลาดการเงินและบอนด์ยีลด์ระยะยาวที่ปรับขึ้น ซึ่งอาจกระทบเสถียรภาพตลาด

หนึ่งในประเด็นที่นักลงทุนกังวลคือความเสี่ยง “Unwind Carry Trade” การเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อปิดสถานะกู้เงินเยน อาจทำให้เงินเยนแข็งค่ารุนแรงเหมือนกลางปี 2024 อย่างไรก็ดี Krungthai CIO ประเมินโอกาสเกิดซ้ำมีจำกัด เพราะปัจจุบัน 1) ตลาดลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอยสหรัฐฯ 2) ตัวเลขจ้างงานแม้ชะลอลงแต่ยังดีกว่าปี 2024 3) การถือครองเงินเยนเปลี่ยนจาก Short เป็น Long 4) ส่วนต่างบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ-ญี่ปุ่นแคบลง ทั้งหมดสะท้อนความเสี่ยง Unwind รุนแรงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Krungthai CIO แนะนำกลยุทธ์ “Barbell” (จัดพอร์ตแบบสมดุลสองด้าน) รับมือการหมุนเวียนเม็ดเงินลงทุนทั้งสองทิศทาง โดยเน้นหุ้นเติบโตกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังได้แรงหนุนจากเมกะเทรนด์ AI ควบคู่หุ้น Defensive อย่าง Healthcare ที่มีกำไรมั่นคงและมูลค่าโดดเด่น รวมถึงมองบวกต่อหุ้นเกาหลีใต้จากวัฏจักรขาขึ้นของชิปหน่วยความจำ การลงทุนในตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย และหุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปที่ได้รับประโยชน์จากสิ้นสุด รอบลดดอกเบี้ยของ ECB นักลงทุนควรสร้าง Core Portfolio ผ่านกองทุน KTWC พร้อมกระจายลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ และ REIT ไทย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ธ.ค. 2568 เวลา : 15:52:22
11-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 ธ.ค.68) ร่วง 11.50 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย

2. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (10 ธ.ค.68) พุ่ง 497.46 จุด รับเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (11 ธ.ค.68) ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น 40-60% ตกหนักหลายพื้นที่ ภาคตะวันออก 30% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน 20% ภาคกลาง 10%

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-31.80 บาท/ดอลลาร์

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (11 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์

6. ตลาดหุ้นไทยเปิด (11 ธ.ค.68) บวก 3.64 จุด ดัชนี 1,273.51 จุด

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (11 ธ.ค.68) ปรับขึ้น 300 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,350 บาท

8. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,200-4,180 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,280 เหรียญ

9. ตลาดหุ้นปิด (9 ธ.ค.68) บวก 8.48 จุด ดัชนี 1,269.87 จุด

10. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 ธ.ค.68) บวก 3.83 จุดดัชนี 1,265.22 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่วงปลายของกรอบแคบ รอการเลือกทาง "Breakout" แนวรับที่ 4,180-4,160 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,260 เหรียญ

12. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (8 ธ.ค.68) ร่วง 25.30 ดอลลาร์ นักลงทุนระวังการซื้อขายก่อนประชุมเฟด

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (8 ธ.ค.68) ร่วง 215.67 จุด บอนด์ยีลพุ่งฉุดตลาด-จับตาประชุมเฟด

14. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (9 ธ.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.91 บาทต่อดอลลาร์

15. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.80 - 32.05 บาท/ดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 11, 2025, 12:55 pm