เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
SCB EIC วิเคราะห์ "ธุรกิจน้ำมันของไทยอยู่ในภาวะทรงตัวจากปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศที่เติบโตได้เล็กน้อย แต่มีแรงกดดันจากส่วนต่างกำไร (Margin) ที่ลดลง"


 
ระดับราคาน้ำมันดิบปรับลดลงอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องจากปี 2568 โดยมีสาเหตุหลักจากอุปสงค์ที่เติบโตช้า ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกและ Energy transition ประกอบกับอุปทานน้ำมันดิบที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

• ในปี 2568 ตลาดน้ำมันดิบ (Crude oil) เผชิญกับแรงกดดันของการคืนกำลังการผลิตของ OPEC+ และการเพิ่มการผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่ม ทำให้เกิดภาวะ Implied stock build ต่อเนื่องและกดดันสมดุลตลาด โดยตลาดมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในปี 2569-2572 ตามความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่ Supply ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญ “Supply-led disinflation” (ในปี 2569-2572) ราคามีแนวโน้มลดลงจากอุปทานส่วนเกิน โดยเฉพาะจาก Non-OPEC+ เช่น สหรัฐฯ และบราซิล ด้านอุปสงค์ (Demand) ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง หลังผ่านพ้นช่วงฟื้นตัว Post-COVID โดยเฉพาะในภาคขนส่ง และถูกกดดันจาก Energy transition ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (เช่น อิหร่าน-อิสราเอล) ยังเป็น Upside risk สำคัญของราคาน้ำมัน เมื่อถึงปี 2572 เป็นต้นไป อัตราการเติบโตของ Supply จากกลุ่ม Non-OPEC+ เริ่มชะลอตัวลงจากปัญหาทุนและแหล่งผลิตที่ให้ Yield ที่คุ้มค่าในการลงทุนเริ่มลดลง ประกอบกับบริษัทต่าง ๆ เริ่มระมัดระวังจาก Trend energy transition และเน้นผลตอบแทนที่สม่ำเสมอแก่ผู้ถือหุ้นมากกว่าการใช้เงินเพื่อลงทุนในแหล่งผลิตที่อาจไม่คุ้มค่าในอนาคต
 

 
ค่าการกลั่นของธุรกิจโรงกลั่นในเอเชียปี 2568 ปรับลดลงต่อเนื่องจากกำลังการผลิตที่ทยอยเพิ่มมากขึ้นในฝั่งเอเชียเป็นหลัก 

• ค่าการกลั่นจะกลับคืนสู่ระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (2558-2562) ในช่วงปี 2569-2572 และบางภูมิภาคจะเริ่มเข้าสู่ Peak oil demand ในบางชนิดของน้ำมันสำเร็จรูป หลังจากที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีมาตั้งแต่ปี 2564

 
• แนวโน้ม 2569–2572 : Overcapacity & Margin Downtrend ตลาดโลกเข้าสู่ช่วง Peak oil demand ในภาคขนส่ง (Gasoline peak ในปี 2570 ใน EU/US) เป็นปัจจัยกดดันต่อการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต การลงทุนโรงกลั่นใหม่ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชียและตะวันออกกลาง (Al Zour, จีน และอินเดีย) ทำให้ Supply เพิ่มสูงในโซน Atlantic Basin (ยุโรป–อเมริกาเหนือ) ในขณะที่ Demand ที่ทรงตัว และโรงกลั่นเก่า ๆ ต้องปิดตัว ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปมีการถูก Disrupt จาก EV, biodiesel, SAF และกฎ IMO/EU ด้าน Decarbonization ส่วน GRM (กำไรขั้นต้นโรงกลั่น) ลดลงจากระดับสูงสุดในปี 2565–2566 และจะทรงตัวที่ระดับ “Normalize”

 
 
ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของไทย :  ปี 2568 คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันหดตัวที่ -2.8%YoY จากการปรับลดลงของการใช้น้ำมัน Jet และ Diesel เป็นหลัก ส่วนปี 2569 ปริมาณการใช้น้ำมันเติบโตขึ้นได้เล็กน้อย 

• ปี 2568 คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันหดตัวที่ -2.8%YoY จากการปรับลดลงของการใช้น้ำมัน Jet และ Diesel เป็นหลัก ส่วนปี 2569 ปริมาณการใช้น้ำมัน เติบโตขึ้นได้เล็กน้อย จากแรงสนับสนุนของภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว 
 

 
 
• ส่วนในระยะกลาง 2569-2572 ยังคงได้รับจากการใช้น้ำมัน Diesel จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่องปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปของไทยโดยรวมฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2569-2572 จากแรงสนับสนุนของ Jet fuel จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการกลับมาของเที่ยวบินระหว่างประเทศ สำหรับน้ำมัน Gasoline เติบโตได้ในระดับต่ำตามกำลังซื้อและโครงสร้างยานยนต์ใหม่ที่เริ่มถูกแทนที่บางส่วนด้วย EV/Hybrid ในขณะที่น้ำมันเพื่อการขนส่งขนาดใหญ่ อย่าง Diesel ทรงตัวในปี 2569 จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอ ประกอบกับความไม่แน่นอนของความไม่สงบของชายแดน แต่มีแนวโน้มฟื้นในปี 2569–2572 ตามกิจกรรมขนส่งและภาคเกษตร ส่วนน้ำมันเตา หรือ Fuel oil ถูกกดดันต่อเนื่องจากภาคเดินเรือที่เผชิญกับมาตรการ IMO และการใช้เชื้อเพลิงสะอาดกว่าในการเดินเรือ ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันเตาไม่เติบโตอีกต่อไป
 

 
อ่านต่อรายงานฉบับเต็มได้ที่... https://www.scbeic.com/th/detail/product/OilandRefinery-091225


 
ผู้เขียนบทวิเคราะห์ : ณัฐนันท์ อภินันท์วัฒนกูล (Nattanan.apinunwattanakul@scb.co.th) นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) SCB EIC Online : www.scbeic.com Line : @scbeic
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ธ.ค. 2568 เวลา : 12:37:46
22-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางเขน 2

2. ตลาดหุ้นปิด (22 ธ.ค.68) บวก 17.49 จุด ดัชนี 1,269.68 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 ธ.ค.68) บวก 12.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,264.63 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำตลาดโลกกำลังเคลื่อนไหวทดสอบระดับสูงสุดเดิม (All Time High) แนวรับที่ 4,340-4,320 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,400-4,420 เหรียญ

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (22 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 450 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,750 บาท

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (22 ธ.ค.68) "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิ 2 องศา "ยอดภู" 10 องศา

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.40 บาทต่อดอลลาร์

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (22 ธ.ค.68) บวก 9.85 จุด ดัชนี 1,262.04 จุด

9. ตลาดหุ้นปิด (19 ธ.ค.68) บวก 2.12 จุด ดัชนี 1,252.19 จุด

10. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 2

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 ธ.ค.68) บวก 3.58 จุด ดัชนี 1,253.65 จุด

12. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทาง Sideway Up ในระยะนี้ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,315-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,375 เหรียญ

13. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) ลบ 9.40 ดอลลาร์ นักลงทุนลดการถือทองคำ หลัง CPI ชะลอตัว

14. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) บวก 65.88 จุด เงินเฟ้อต่ำ หนุนเฟดลดดอกเบี้ยมี.ค.ปีหน้า

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (19 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา,ภาคใต้ ฝน 30-40%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 22, 2025, 11:23 pm