เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ลุ้นหุ้นพลังงานกลับมาหนุนตลาด"


คาดตลาดไซด์เวย์/แกว่งตัวขึ้น ตลาดกลับมายืนเหนือ 1258 ได้ส่งผลให้ทิศทางระยะสั้นกลับมาเป็นการแกว่งตัวขึ้น หากยังไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับ 1265/1258 ยังเป็นบวก มีแนวต้านหลักถัดไป 1275/1285 เชิงปัจจัย หุ้น DELTA ยังส่งผลต่อตลาดสูง ค่าเงินบาทแข็งค่าหนุนจิตวิทยา ส่วนราคาน้ำมันขึ้นช่วยหนุนหุ้นพลังงาน ติดตามนโยบายพรรคการเมืองในการแก้ปัญหา ศก. และ Window Dressing สัปดาห์นี้ ปัจจัยภายนอก รอดูรายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและ 3Q68 GDP สหรัฐฯ คืนนี้ 

ประเด็นสำคัญ

• รมว. ตปท. แถลงหลังการประชุม รมว. ตปท. อาเซียนสมัยพิเศษในมาเลเซียว่าไทยและกัมพูชาตกลงจะจัดการหารือภายใต้กรอบการทำงาน JBC ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ เพื่อยุติการสู้รบบริเวณชายแดน 

• ผู้ว่าฯ ธปท. มองเงินเฟ้อในปี 2569 มีแนวโน้มค่อยๆ ปรับขึ้น และจะทำให้ไม่เกิดภาวะเงินฝืด และตั้งกรอบเงินเฟ้อปี 2569 ที่ 1-3% เหมือนกับในปี 2568 และคาดจะกลับเข้าสู่กรอบได้ภายในปี 2570 ขั้นตอนต่อไปกระทรวงการคลังจะเสนอ ครม. ภายในปีนี้

• ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกใน พ.ย. 2568 ที่ 78,692 คัน หดตัวต่อเนื่อง MoM และ YoY ทำให้ยอดช่วง 11M68 ที่ 850,787 คัน คาดจะพลาดเป้าหมายทั้งปีที่ 9.5 แสนคัน ส่วนยอดผลิตใน พ.ย. 2568 ที่ 130,222 คัน ฟื้นตัวต่อเนื่อง 11.1%YoY หนุนจากการผลิต EV เพื่อชดเชยโควตานำเข้าและรถกระบะ

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 62.07 US/bbl (2.64%DoD) ปรับขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ จากความกังวลสหรัฐฯ อาจยกระดับการเข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลาต่อเนื่องจากช่วงสัปดาห์ก่อน ระยะสั้นมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่ออุตฯ น้ำมันต้นน้ำ PTTEP และโรงกลั่น TOP

• จีนประณามสหรัฐ กรณียึดเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลา ระบุเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง พร้อมย้ำคัดค้านการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ไม่ได้รับอนุมัติจาก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และมองว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยประเทศอื่น

• ไชน่า ว่านเคอ (China Vanke) รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้วานนี้ หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระหุ้นกู้มูลค่า 2,000 ล้านหยวนเป็นวันที่ 27 ม.ค. 2569

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1230-1285 จุด หลังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ และมีวอลุ่มซื้อขายที่เบาบางลง หลังบรรยากาศการลงทุนเริ่มใกล้ช่วงปลายปีก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะต่างชาติ ทั้งนี้มองตลาดจะติดตามปัจจัยในประเทศเป็นหลัก อาทิ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและนโยบายหลักแต่ละพรรค ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและผลประกอบการของ บจ. ไทย, ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกบางส่วนที่อาจช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ เช่น แรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง ThaiESG ที่อาจเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และการทำ Window Dressing ที่นักลงทุนสถาบันบางส่วนอาจใช้ปรับพอร์ตให้ดูดีก่อนสิ้นปี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบก่อนเข้าช่วงสิ้นปี คาดตลาดติดตามปัจจัยในประเทศ-การเมือง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI 

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอีก 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ 2) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี และ 3) หุ้นที่อยู่ใน SETESG และ SET100 ที่คาดได้อานิสงส์จากมีแรงซื้อโค้งสุดท้ายกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG โดยเลือกหุ้นที่ล่าสุด ตลท. ประกาศผล SET ESG Rating ดีขึ้นตั้งแต่ A ขึ้นไปและเราแนะนำ Outperform อีกทั้งราคาหุ้นปรับลง YTD เลือก BDMS CHG ERW GLOBAL HMPRO PRM

Daily Top Picks

TOP: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากปัจจัยฤดูกาลหนุนให้ GRM ยังทรงตัวสูงและยังได้ประโยชน์จากมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันอากาศยานสูง ใน 4Q68 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นต่อ QoQ จากหน่วยกลั่นที่ 3 ที่กลับมาเดินเครื่อง การใช้อัตรากำลังการกลั่นที่สูงขึ้น และส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลแข็งแกร่งหนุน เป้าหมายระยะสั้น 36.00 บาท

AP: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแผนทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่นลบ. ใน 4Q68 และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง กำไรสุทธิ 4Q68 คาดจะทำจุดสูงสุดของปี ฟื้นตัว QoQ แม้ทรงตัว YoY หนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่งจากโครงการแนวราบและการเริ่มโอนคอนโด คาดปันผลปี 2568 ที่ 0.49 บาท/หุ้น หรือ 5.5% เป้าหมายระยะสั้น 8.95 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ธ.ค. 2568 เวลา : 11:43:37
23-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 ธ.ค.68) บวก 2.66 จุด ดัชนี 1,272.34 จุด

2. MTS Gold คาดราคาทองคำปรับฐานลงมา ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,450-4,420 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,500-4,520 เหรียญ

3. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์

4. พยากรณ์อากาศวันนี้ (23 ธ.ค.68) "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 2 องศา มีน้ำค้างแข็ง "ยอดภู" 8 องศา / อุตุฯ เตือน 25-28 ธ.ค. ภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (22 ธ.ค.68) บวก 227.79 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีพุ่ง

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (22 ธ.ค.68) พุ่ง 82.10 ดอลลาร์ เหตุ "สหรัฐ-เวเนซุเอลา" ตึงเครียด หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (23 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 900 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,750 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ธ.ค.68) บวก 1.89 จุด ดัชนี 1,271.57 จุด

9. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางเขน 2

10. ตลาดหุ้นปิด (22 ธ.ค.68) บวก 17.49 จุด ดัชนี 1,269.68 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 ธ.ค.68) บวก 12.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,264.63 จุด

12. MTS Gold คาดราคาทองคำตลาดโลกกำลังเคลื่อนไหวทดสอบระดับสูงสุดเดิม (All Time High) แนวรับที่ 4,340-4,320 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,400-4,420 เหรียญ

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (22 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 450 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,750 บาท

14. พยากรณ์อากาศวันนี้ (22 ธ.ค.68) "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิ 2 องศา "ยอดภู" 10 องศา

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.40 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2025, 1:52 pm