เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ตอนที่ 29/2556: เรายังอยู่ในภาวะที่ไว้วางใจไม่ได้?ความเสี่ยงมันรอปะทุขึ้นมาหากเราไม่ระวัง


 

ทีมงานผมได้ส่งข้อเขียนท่านอาจารย์ ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ มาให้ผมได้อ่าน เมื่อผมได้อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงวิชาการ ท่านได้ให้ความเป็นห่วง “บ้านเมือง”แบบที่ไม่สนใจการเมืองที่กำลังเป็นประเด็น
 
ประเด็นที่สำคัญของท่านอาจารย์พาดหัวในข้อเขียนคือ “เหมือนมีลางบอก...ถึงอันตราย” ที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับกระบวนการวิเคราะห์สินเชื่อ เช่น นายธนาคารใหญ่ของค่ายหนึ่งออกมาบอกว่า ตอนนี้คนที่เงินเดือนน้อยกว่า 2 หมื่นบาท เป็นหนี้ค่อนข้างมาก การยื่นขอกู้เงินธนาคารในเวลานี้ผ่านได้ยากเพราะเหตุว่าเอาเงินไปลงทุนซื้อรถยนต์โดยใช้วิธีการเช่าซื้อ หรือลีสซิ่ง เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อมาเพิ่งมารู้ว่า การมีรถยนต์มันได้สร้างภาระรายจ่ายที่หนักหนากว่าที่คิดที่เตรียมไว้ ไม่ใช่เฉพาะเงินดาวน์เท่านั้น การผ่อนรายเดือนที่เรียกว่าค่างวดรถยนต์ กับค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้นนั้น ทำให้ขีดความสามารถในการก่อหนี้เพิ่มหรือก่อหนี้ก้อนใหม่ทำได้ยากมากขึ้น
 
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่เผยแพร่ออกมาระบุว่า ประเด็นที่หนึ่ง มาตรฐานการให้สินเชื่อภาคครัวเรือนช่วงไตรมาส 2 ปี 2556 พบว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่เพิ่มความเข้มงวดในการให้สินเชื่อ
 
และประการสำคัญต่อมา จากการสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อของธนาคาพาณิชย์และบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (ที่เรียกว่า Non Bank) ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2556 นี้ สถาบันการเงินมีแนวโน้มจะเพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อครัวเรือนทุกประเภท ตามความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพสินเชื่อครัวเรือนอื่นๆ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
 
นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวด  ในการให้สินเชื่อต่อเนื่องสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อ (หมายความว่ากลัวว่าปล่อยกู้ไปแล้วจะเกิดปัญหาหนี้ค้างชำระ เพราะที่ปล่อยไปแล้วในปัจจุบันอาจมีข้อมูลว่ามีการค้าชำระมากขึ้น ตลอดจนภาวะปัจจัยทางเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูงพอสมควร) ในขณะที่มาตรฐานการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจขนาดใหญ่คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน
 
ในรายงานแนวโน้มความต้องการสินเชื่อช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 นี้ ระบุรายละเอียดคาดว่าความต้องการสินเชื่อภาคครัวเรือนทุกประเภทจะทรงตัวจากปัจจุบัน (คือหมายความว่าจะไม่ได้มีความต้องการมากแบบกระโดดขึ้นมาเป็น 30-40% เช่นที่ผ่านมานั้น สะท้อนแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัวต่อเนื่อง) ขณะที่ความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจที่มาจากฝั่ง SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่จะขยายตัวได้เล็กน้อยจากปัจจุบัน เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ธุรกิจการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ การขนส่งและคลังสินค้า และอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับการสำรวจของ ธปท. ในรอบนี้ เป็นการสำรวจประจำไตรมาส 2 ปี 2556 โดยมีธนาคารที่ร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 26 แห่ง และ Non Bank อีก 22 แห่ง ครอบคลุมสินเชื่อประมาณ 98.9% ของทั้งระบบ 

สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ส.ค. 2556 เวลา : 20:15:08
22-11-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (22 พ.ย.67) บวก 5.84 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,446.30 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 พ.ย.67) บวก 8.45 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,448.91 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 2,650 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,700 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นไทยเปิด (22 พ.ย.67) บวก 4.22 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,444.68 จุด

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (22 พ.ย. 67) พุ่งขึ้น 300 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 44,500 บาท

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (21 พ.ย.67) พุ่ง 461.88 จุด รับปัจจัยบวกแรงซื้อหุ้นวัฏจักร

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (21 พ.ย.67) พุ่ง 23.20 เหรียญ นักลงทุนแห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนรุนแรงขึ้น

8. "ยอดดอย" อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศา , มรสุมพัดปกคลุมภาคใต้ ส่งผลภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 70-80%

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 พ.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 34.75 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.65-34.90 บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (21 พ.ย.67) ลบ 22.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,440.46 จุด

12. ประกาศ กปน.: 26 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเพชรเกษม

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 พ.ย.67) ลบ 18.69 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,443.79 จุด

14. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับ 2,630 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 2,675 เหรียญ

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) พุ่งขึ้น 20.70 เหรียญ เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน หนุนแรงซื้อทอง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 8:18 pm