เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "รอการประชุม กนง."


คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ ตลาดมายืนเหนือ 1300 แรงซื้อหลักมาจาก DELTA หนุนตลาด 10 จุด หนุนจิตวิทยาก่อนทราบผลประชุม กนง. วันนี้ ตลาดส่วนหนึ่งคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย แต่เรามองว่าการปรับลดมีแนวโน้มเกิดขึ้นใน ธ.ค. มากกว่า  หากออกมาตามที่เราคาดไว้อาจทำให้ตลาดมีช่วงผันผวนได้ ทางเทคนิคตลาดกลับมายืนเหนือ 1300 ได้ ทำให้จิตวิทยาเป็นบวกอีกครั้ง มีแนวต้านถัดไปที่ 1313/1320 ที่จะทำให้ชะลอตัว ส่วนแนวรับหากยังบวกแกว่งไม่ควรลงหลุด 1300/1290  

ประเด็นสำคัญ

• ครม. อนุมัติงบฯ 4.4 หมื่นลบ. สำหรับ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งมีการลดอายุเข้าร่วมโครงการขั้นต่ำเหลือ 16 ปี, เพิ่มวงเงินสำหรับผู้ยื่นภาษีเงินได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการ และกำหนดกรอบเวลาชัดเจน เริ่มลงทะเบียน 20-26 ต.ค. และเริ่มใช้จ่าย 29 ต.ค. ถึงสิ้นปี 2568 มองเป็น  Sentiment บวกต่อ CPAXT และ BJC ซึ่งมีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร และ TNP ซึ่งเป็นร้านธงฟ้า

• กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์โครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าหมุนเวียน Direct PPA สำหรับ Data Center จำนวน 2,000MW ซึ่งจะสามารถกำหนดราคาซื้อขายเองได้ มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF, BGRIM และ GPSC และกลุ่มนิคม WHA AMATA

• นทท. ต่างชาติในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 16%WoW และมีช่วงลบ YoY แคบลงต่อเนื่อง เป็นสัญญาณฟื้นตัว หนุนจาก นทท. จีนที่เพิ่มขึ้น 67%WoW ในช่วง Golden Week และกลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้น 7%WoW ส่วนจำนวน นทท. ต่างชาติสะสมทั้งปี 2568 ที่ 24,574,177 คน ลดลง 7.5%YoY

• รมว. คลังเตรียม 3 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับการท่องเที่ยวในเมืองรอง, เร่งรัดภาครัฐเบิกจ่ายงบอบรม-สัมมนาราว 1 หมื่นลบ. เข้าสู่ระบบ ศก. และสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 1.5-2 เท่าสำหรับการซ่อมแซมที่พักของผู้ประกอบการ มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงแรม ERW และ CENTEL

• WorldBank เพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 ขึ้นเป็น 2.0% จาก 1.6% แต่คาดชะลอเหลือ 1.8% ในปี 2569 จากความไม่แน่นอนด้านการเมืองและแรงหนุน ศก. ที่อ่อนแรง รายได้ต่อหัวของไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าภูมิภาค

• FTSE Russell ประกาศยกระดับตลาดหุ้นเวียดนาม เป็น Emerging Market จาก Frontier Market มีผลวันที่ 21 ก.ย. 2569 ทั้งนี้จะมีการทบทวนระหว่างกาลใน มี.ค. 2569

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระตุ้นบรรยากาศลงทุน ปัจจัยในประเทศติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ ก.ย. ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดและติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก อาจหนุนให้ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ดีเราคาด กนง. จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. นี้ก่อน แต่มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้แทน ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตาม FOMC Minutes เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ คาดไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน โดยในอดีตการชัตดาวน์ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นในปี 2018-2019 ใช้ระยะเวลา 35 วัน ซึ่งทั้ง S&P500 และ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก สะท้อนว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐาน เนื่องขาดปัจจัยหนุนใหม่ ติดตามการประชุม กนง. และทิศทางดอกเบี้ยจากรายงานการประชุม FOMC กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้ง และปีหน้า 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ  1) หุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต ซึ่งมียอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนะนำ CPAXT (มีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร), TNP (เป็นร้านธงฟ้า), BJC, CPALL, CBG, OSP, HTC, ICHI, SAPPE และ 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆและเราแนะนำ Outperform แนะนำ ค้าปลีก (CPALL  BJC TNP GLOBAL) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW) ไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) นิคม (WHA AMATA) และโรงไฟฟ้า (GULF BGRIM BCPG CKP)

Daily Top Picks

CPALL: คาดได้อานิสงส์รัฐเร่งดำเนินนโยบายสร้างรายได้และลดค่าครองชีพซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ 2H68 คาดกําไรจะโตเด่นกว่ากลุ่ม หนุนจาก SSS ที่แข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ส่วนแบ่งกำไรที่เป็นบวกจาก CPAXT ด้าน Valuation น่าสนใจ เทรด PER 2568F ที่ 14 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม ราคาเป้าหมายระยะสั้น 49.50 บาท

ERW: คาดได้อานิสงค์จากมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการท่องเที่ยวเมืองรองและสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 1.5-2 เท่าสำหรับการซ่อมแซมที่พัก ราคาหุ้นลงสะท้อนความเสี่ยงการต่อสัญญาเช่าเอราวัณกรุงเทพฯ ระดับหนึ่งแล้ว ประเมิน 2H68 ผลการดำเนินงานฟื้นตัว บริษัทตั้งเป้า HOP INN เติบโตสูง เป้าหมายระยะสั้น 2.90 บาท   
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ต.ค. 2568 เวลา : 10:54:08
10-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (9 ต.ค.68) ร่วง 97.9 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายหลังอิสราเอล-ฮามาสตกลงหยุดยิง

2. พยากรณ์อากาศวันนี้ (10 ต.ค.68) ฝนตกหนักในภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 20%

3. ทองเปิดตลาดวันนี้ (10 ต.ค. 68) ร่วงแรง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,500 บาท

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (9 ต.ค.68) ร่วง 243.36 จุด นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (10 ต.ค.68) ร่วงแรง 20.96 จุด ดัชนี 1,293.03 จุด

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-32.90 บาท/ดอลลาร์

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (10 ต.ค.68) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์

8. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวงศ์สว่าง และถนนรัชดาภิเษก

9. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 1

10. ตลาดหุ้นปิด (9 ต.ค.2568) บวก 9.07 จุด ดัชนี 1,313.99 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 ต.ค.68) บวก 7.32 จุด ดัชนี 1,312.24 จุด

12. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 4,000 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 4,045 เหรียญ

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (9 ต.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก" ฝนตกหนัก 70% ภาคใต้ 60% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน 30%

14. ทองเปิดตลาดวันนี้ (9 ต.ค. 68) ร่วงลง 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,800 บาท

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (9 ต.ค.68) บวก 6.48 จุด ดัชนี 1,311.40 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 10, 2025, 11:59 am