ดูเหมือนว่าเพดานของราคาจะไม่มีที่สิ้นสุดเลย สำหรับสินทรัพย์อย่างทองคำ ที่ไต่ระดับทำ All Time High ล่าสุดในวันพุธที่ 8 ต.ค. 2568 นี้ ทะลุ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เป็นที่เรียบร้อย โดยราคาทองคำที่เข้าสู่ช่วงขาขึ้นดังกล่าว มาจากแรงหนุนของนักลงทุนที่โยกเงินมาลงทุนเก็บไว้ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ความไม่แน่นอนและประเด็นความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางโกลด์แมน แซคส์ ได้มีการประกาศปรับขึ้นคาดการณ์ราคาทองคำในสิ้นปีหน้าเป็น 4,900 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เช่นเดียวกัน
ช่วงก่อนหน้านี้ โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจและผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำเป็นเวลานาน ได้มีการวิเคราะห์ว่า จะมีเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยได้กระจายการลงทุนเข้าสู่ทองคำอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ภายในกลางปี 2569 และแตะระดับ 4,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ภายในสิ้นปีดังกล่าว
แต่ล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยแนวโน้มของราคาทองคำที่สูงขึ้นกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยล่าสุดได้ปรับขึ้นคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน ธ.ค. 2569 จาก 4,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เป็น 4,900 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องด้วยแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลก ปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐที่ทยอยอ่อนค่าลง ได้เพิ่มแรงดึงดูดให้กับสินทรัพย์ที่ถูกมองว่าเป็น Safe Heaven อย่างทองคำ โดยมีกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำในภูมิภาคตะวันตกอย่างแข็งแกร่ง และความเป็นไปได้อย่างมากที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ Emerging Markets จะเข้าซื้อสะสมทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อกระจายสินทรัพย์สำรอง (Reserve Diversification) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเน้นไปที่เพิ่มสัดส่วนของทองคำแทนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ จากประเด็นที่ดอลลาร์เคยถูกใช้เป็นอาวุธในการคว่ำบาตร ทำให้หลายประเทศเริ่มไม่อยากพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะเงินสำรองของประเทศตัวเองแล้ว
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดการณ์ในประเด็นของทางธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ที่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวมแล้ว 1% ในช่วงก่อนกลางปี 2569 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการถือครองทองคำมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งผลักดันให้นักลงทุนภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำ และส่งผลให้กองทุน ETF ถือครองทองคำเพิ่มขึ้นมากเกินคาด ทั้งนี้ ทิศทางการเพิ่มขึ้นของทองคำ จะสามารถคาดการณ์คร่าว ๆ จากสัดส่วนของทุก ๆ ครั้งที่ธนาคารกลางซื้อทองคำสุทธิ 100 ตัน จะทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 1.7%
ส่วนราคาทองคำในประเทศไทย ที่ขึ้นกับทั้งราคาทองคำในตลาดโลก ค่าเงินบาท และพฤติกรรมการซื้อในประเทศนั้น หากค่าเงินบาทไม่แข็งเกินไป จะส่งผลให้ราคาทองคำไทยทะลุ 65,000 บาท/ทองคำหนึ่งบาท ภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตามระดับราคาทองคำโลกที่ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ถือเป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งก็จับตาประเด็นการเทขายทำกำไรจากที่ราคาทองคำขึ้นเร็ว ปัจจัยของเหตุการณ์โลก และนโยบายของทาง Fed ที่ต้องจับตาต่อไปอย่างใกล้ชิด
ข่าวเด่น