เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "อย่าหลุด 1300 ไม่หลุดยังบวก"


คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ตลาดมีช่วงผันผวนหลังกนง. คงดอกเบี้ย แต่ยังไม่หลุด 1300 เป็นสัญญาณบวก แรงซื้อหลักยังมาจาก DELTA ระยะสั้นติดตามการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ซึ่ง รมว.คลังคาดจะออกมาตรการทุกสัปดาห์ ทางเทคนิค ตลาดชะลอตัวที่แนวต้านที่ให้ไว้ 1313 แต่การลงก็ยังไม่หลุดต่ำกว่า 1300 หากไม่หลุดต่ำกว่าระยะสั้นยังแกว่งขึ้น โดยมีแนวต้าน 1313/1320 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1300/1290 ยังแกว่งขึ้นไม่ควรลงหลุดต่ำกว่านื้1300 ได้ ทำให้จิตวิทยาเป็นบวกอีกครั้ง มีแนวต้านถัดไปที่ 1313/1320 ที่จะทำให้ชะลอตัว ส่วนแนวรับหากยังบวกแกว่งไม่ควรลงหลุด 1300/1290  

ประเด็นสำคัญ

• กนง. มีมติ 5-2 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามเราคาด และมองการลดดอกเบี้ยในครั้งก่อนยังอยู่ระหว่างการส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจ และให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาการลดดอกเบี้ยภายใต้ Policy Space ที่จำกัด และยังเน้นย้ำเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคาควบคู่กับการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้การคงดอกเบี้ยมองเป็น Sentiment บวกระยะสั้นต่อกลุ่ม ธพ. (BBL KBANK)

• ม. หอการค้าไทยปรับคาดการณ์เติบโต GDP ปี 2568 ขึ้นเป็น 2.0% จากเดิมที่ 1.7% หนุนจากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่ดี และการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคที่แข็งแกร่งขึ้นจากมาตรการกระตุ้น ศก. ขณะที่มองภาคท่องเที่ยวยังชะลอตัวลงและมีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ

• ม. หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน ก.ย. 2568 ฟื้นตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนสู่ 50.7 หนุนจากการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น, การฟื้นตัวของตลาดหุ้นและภาคส่งออก, ราคาน้ำมันที่ลดลง และความคาดหวังต่อโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ใน 4Q68

• รมว. พลังานเดินหน้าโครงการตามนโยบาย “Quick Big Win” สร้างรายได้-ลดรายจ่าย เช่น โซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500MW ซึ่งจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนและคาดจะประกาศรับซื้อได้ภายใน พ.ย. 68 มองเป็นบวกต่อผู้รับติดตั้งโซลาร์ (BANPU SCC GUNKUL) ส่วนโครงการ Direct PPA 2,000MW คาดจะเสนอต่อ กบง. ได้ภายใน พ.ย. นี้ มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีฐานลูกค้ากลุ่ม Data Center (GULF BGRIM GPSC)

• รมว. คลังเผยจะเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า เช่น สิทธิ์การลดหย่อนภาษี โดยจะมุ่งเน้นไปที่เมืองรองเป็นหลัก ส่วนรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการพิจารณา มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว (ERW CENTEL)

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระตุ้นบรรยากาศลงทุน ปัจจัยในประเทศตัวเลขเงินเฟ้อ ก.ย. ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดและติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก หนุนให้ตลาดคาดหวัง กนง. จะยังมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 17 ธ.ค. หลังวันที่ 8 ต.ค. กนง. มีมติคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ตามที่เราคาด ส่วนปัจจัยต่างประเทศ FOMC Minutes ชี้ว่าเฟดมีความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแอ และ Dot Plot บ่งชี้ว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐคาดไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน โดยในอดีตการชัตดาวน์ยาวนานสุดเกิดขึ้นในปี 2018-2019 ใช้ระยะเวลา 35 วัน ซึ่งทั้ง S&P และ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก สะท้อนว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐาน เนื่องขาดปัจจัยหนุนใหม่ ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งใน 1H69  อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต ซึ่งมียอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนะนำ CPAXT (มีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร), TNP (เป็นร้านธงฟ้า), BJC, CPALL, CBG, OSP, HTC, ICHI, SAPPE และ 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆและเราแนะนำ Outperform แนะนำ ค้าปลีก (CPALL BJC TNP GLOBAL) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW) ไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) นิคม (WHA AMATA) และโรงไฟฟ้า (GULF BGRIM BCPG CKP)

Daily Top Picks

GULF: ปัจจัยหนุนจากรัฐบาลมีแผนผลักดันโครงการ Direct PPA 2,000MW ซึ่งจะหนุนรายได้ผู้ให้บริการไฟฟ้าที่มีฐานลูกค้า Data Center 2H68 คาดกำไรปกติเติบโตแข็งแกร่งจากการเริ่ม COD โครงการ Solar 5 แห่ง (+308MW) และโครงการ Solar+BESS อีก 2 แห่ง (+289MW) ใน 4Q68 ราคาเป้าหมายระยะสั้น 45.00 บาท

TU: คาดจะได้ประโยชน์จากเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่า จากช่วงก่อนที่ราคาได้ปรับลงสะท้อนบาทแข็งไประดับหนึ่งแล้ว คาดกําไรสุทธิ 3Q68 ที่ 1.29 พันลบ. ลดลง 8%YoY แต่เพิ่มขึ้น 2%QoQ คาดยอดขายจะเพิ่มขึ้น 3.5%YoY หนุนจากยอดขายธุรกิจหลักที่เติบโต 6-7%YoY ช่วยชดเชยผลกระทบจากบาทแข็งค่าได้ เป้าหมายระยะสั้น 13 บาท   
 

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ต.ค. 2568 เวลา : 10:52:54
10-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (9 ต.ค.68) ร่วง 97.9 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายหลังอิสราเอล-ฮามาสตกลงหยุดยิง

2. พยากรณ์อากาศวันนี้ (10 ต.ค.68) ฝนตกหนักในภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 20%

3. ทองเปิดตลาดวันนี้ (10 ต.ค. 68) ร่วงแรง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,500 บาท

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (9 ต.ค.68) ร่วง 243.36 จุด นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (10 ต.ค.68) ร่วงแรง 20.96 จุด ดัชนี 1,293.03 จุด

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-32.90 บาท/ดอลลาร์

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (10 ต.ค.68) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์

8. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวงศ์สว่าง และถนนรัชดาภิเษก

9. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 1

10. ตลาดหุ้นปิด (9 ต.ค.2568) บวก 9.07 จุด ดัชนี 1,313.99 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 ต.ค.68) บวก 7.32 จุด ดัชนี 1,312.24 จุด

12. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 4,000 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 4,045 เหรียญ

13. พยากรณ์อากาศวันนี้ (9 ต.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก" ฝนตกหนัก 70% ภาคใต้ 60% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน 30%

14. ทองเปิดตลาดวันนี้ (9 ต.ค. 68) ร่วงลง 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,800 บาท

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (9 ต.ค.68) บวก 6.48 จุด ดัชนี 1,311.40 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 10, 2025, 11:50 am