เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ปรับตัวลง - DELTA กลับมากดดัน"


คาดตลาดปรับลง/พักฐาน หลังตลาดฯ แจ้ง DELTA เข้าเกณฑ์ติด Cash Balance สถิติในอดีตชี้ว่าจะให้ผลตอบแทนเป็นลบในวันถัดไปกดดันตลาด แม้ Delta Taiwan ได้แจ้งยอดขายเดือน ก.ย. เติบโต 19.2%MoM ซึ่งปกติมีทิศทางเดียวกัน แต่คาดว่าอาจยังไม่ชดเชยได้ สัปดาห์หน้าติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเที่ยวเมืองรอง ทางเทคนิค ตลาดชะลอตัวที่แนวต้านที่ให้ไว้ 1320 ยังไม่ผ่าน ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1300/1290 พักไม่นานไม่ควรลงหลุดต่ำกว่า

ประเด็นสำคัญ

• รมว. คลังเผยอยู่ระหว่างปรับเกณฑ์ลดหย่อยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ จะกำหนด “เพดานรวม” ของการลดหย่อนภาษีในแต่ละปีจากปัจจุบันที่กระจัดกระจาย และพิจารณาแนวคิด Individual Saving Account (ISA) ของ ตลท. เพื่อรวมผลิตภัณฑ์การลงทุนลดหย่อยภาษีให้เป็นระบบเดียว คาดจะมีความชัดเจนใน พ.ย. 2568

• รมว. พาณิชย์เปิด 7 นโยบาย “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว”  แบ่งเป็น 4 นโยบายเร่งด่วน ยกระดับรายได้เกษตรกร-บริหารสต็อกข้าวชะลอการขาย, ขยายตลาดผ่าน FTA 14 ฉบับ, ลดค่าครองชีพผ่านมหกรรมธงฟ้า-รพ. เอกชน และส่งเสริมการค้าชายแดน และ 3 นโยบายระยะยาวเพื่อให้หลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ปรับโครงสร้าง ศก., หนุน Future Food Hub และสร้าง Digital Trade Ecosystem

• กกพ. เผยมีแนวโน้มจะตรึงค่าไฟฟ้างวดใหม่ ม.ค.-เม.ย. 2569 ที่ 3.94 บาท/หน่วย หลังเห็นต้นทุนเชื้อเพลิงไม่ปรับตัวรุนแรงมากเท่าปีก่อนๆ และอาจไม่จำเป็นต้องใช้เม็ดเงิน Claw Back เพื่อพยุงค่าไฟฟ้า ส่วนโครงการ Direct PPA 2,000MW คาดจะมีการสรุปโครงการและประกาศภายใน ธ.ค. 2568 มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า

• ตลท. ประกาศ DELTA เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย Cash Balance ระหว่างวันที่ 10 ต.ค. – 30 ต.ค. 2568 สถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา DELTA เคยเข้าข่ายดังกล่าวแล้ว 7 ครั้งและพบว่าราคาเปิดของ DELTA ในวันแรกจะปรับลงจากวันก่อนเฉลี่ย 9.5% หรือระหว่าง 3.1%-15.3%

• TSMC เผยรายได้ใน 3Q68 ก่อนการรายงานฉบับเต็มที่ราว 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโต 30%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ หนุนจากกระแส AI ที่เติบโตต่อเนื่อง ช่วยชดเชยอุปสงค์ชิปสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค ติดตามแนวโน้มคาดการณ์และภาพรวมตลอดทั้งปีวันรายงานงบฉบับเต็มในวันที่ 16 ต.ค. 2568
 
 
กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระตุ้นบรรยากาศลงทุน ปัจจัยในประเทศตัวเลขเงินเฟ้อ ก.ย. ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดและติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก หนุนให้ตลาดคาดหวัง กนง. จะยังมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 17 ธ.ค. หลังวันที่ 8 ต.ค. กนง. มีมติคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ตามที่เราคาด ส่วนปัจจัยต่างประเทศ FOMC Minutes ชี้ว่าเฟดมีความกังวลต่อภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแอ และ Dot Plot บ่งชี้ว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐคาดไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน โดยในอดีตการชัตดาวน์ยาวนานสุดเกิดขึ้นในปี 2018-2019 ใช้ระยะเวลา 35 วัน ซึ่งทั้ง S&P และ SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก สะท้อนว่าตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐาน เนื่องขาดปัจจัยหนุนใหม่ ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP KTB LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งใน 1H69  อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ  1) หุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากเกิดโครงการคนละครึ่งในอดีต ซึ่งมียอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนะนำ CPAXT (มีฐานลูกค้าโชห่วยและร้านอาหาร), TNP (เป็นร้านธงฟ้า), BJC, CPALL, CBG, OSP, HTC, ICHI, SAPPE และ 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆและเราแนะนำ Outperform แนะนำ ค้าปลีก (CPALL  BJC TNP GLOBAL) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW) ไฟแนนซ์ (MTC TIDLOR) นิคม (WHA AMATA) และโรงไฟฟ้า (GULF BGRIM BCPG CKP)

Daily Top Picks

CPALL: คาดได้อานิสงส์รัฐดำเนินนโยบายสร้างรายได้และลดค่าครองชีพซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ กําไรปกติ 3Q68 คาดจะเติบโต YoY สูงที่สุดในกลุ่ม +8%YoY เทียบกับบริษัทอื่นๆที่ลดลง YoY ส่วนกําไร 4Q68 คาดจะเติบโต YoY จากคนละครึ่งพลัส ด้าน Val มีความน่าสนใจ PE 2568F ที่ 15x ต่ำสุดในกลุ่ม เป้าหมายระยะสั้น 49.50 บาท

SIRI: คาดมีปัจจัยหนุนจากภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในขาลงและกำไร 3Q68 คาดจะออกมาดีและเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่จะเติบโต YoY และ QoQ ยอด Presales เติบโต 9%YoY และ 45% QoQ หนุนจากโครงการคอนโดเปิดใหม่ และอาจมีการบันทึกกำไรพิเศษจาก JV ด้าน Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ PER 2569F ที่ 5.4x เป้าหมายระยะสั้น 1.50 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ต.ค. 2568 เวลา : 10:59:30
13-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสุวินทวงศ์

2. ตลาดหุ้นปิด (10 ต.ค.68) ลบ 27.01 จุด ดัชนี 1,286.98 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (10 ต.ค.68) ลบ 25.96 จุด ดัชนี 1,288.03 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,970 เหรียญและแนวต้านที่ระดับ 4,010 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (9 ต.ค.68) ร่วง 97.9 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายหลังอิสราเอล-ฮามาสตกลงหยุดยิง

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (10 ต.ค.68) ฝนตกหนักในภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 20%

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (10 ต.ค. 68) ร่วงแรง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,500 บาท

8. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (9 ต.ค.68) ร่วง 243.36 จุด นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (10 ต.ค.68) ร่วงแรง 20.96 จุด ดัชนี 1,293.03 จุด

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-32.90 บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (10 ต.ค.68) อ่อนค่าลงหนัก ที่ระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวงศ์สว่าง และถนนรัชดาภิเษก

13. ประกาศ กปน.: 15 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 1

14. ตลาดหุ้นปิด (9 ต.ค.2568) บวก 9.07 จุด ดัชนี 1,313.99 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 ต.ค.68) บวก 7.32 จุด ดัชนี 1,312.24 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 13, 2025, 7:48 am