เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "รอเบรก...อย่าหลุด 1298"


คาดตลาดไซด์เวย์/รอเบรก นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อแม้ลดระดับลง การทดสอบใกล้ 1300 วันก่อนมีช่วงรีบาวด์ ขณะที่ผลประกอบการ 3Q68 ส่วนใหญ่ทยอยออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ เข้าสู่วันที่ 41 เริ่มมีโอกาสสิ้นสุดลงหลังมีเสียงเดโมแครทหนุน เทคนิคดัชนีลงมาทดสอบ 1300-1298 ไม่หลุด หากไม่หลุดยังพักสั้น ส่วนการลงหลุดต่ำกว่าคาดลงทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 1285 การขึ้นมีแนวต้าน 1315/1320 ยืนได้จะกลับมาแกว่งขึ้น 

ประเด็นสำคัญ

• ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจจะเสนอ ครม. ชุดใหญ่เพื่ออนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพิ่มเติมสำหรับร้านค้าที่ผ่านการอบรมเพิ่มทักษะการขายออนไลน์ในอัตรา 20% ของยอดขาย แต่ไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะจำกัดสิทธิ์สำหรับ 4 แสนรายแรกเท่านั้น จากร้านค้าทั้งหมดที่เข้าร่วม 9 แสนราย รัฐบาลจะจ่ายเงินภายในวันที่ 25 ธ.ค. 2568

• กระทรวงการคลังเดินหน้าทบทวนการจัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง เช่น การควบคุมการขาดดุลงบฯ ที่ 3% ต่อ GDP จากปัจจุบันที่ระดับ 4% และจัดทำแผนปฏิรูปรายได้ควบคู่กัน ตั้งเป้าที่ 17-18% ต่อ GDP จากปัจจุบันที่ระดับ 14% เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจาก นลท. และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ คาดประกาศได้ภายใน พ.ย.  2568

• BOI มีมติอนุมัติ 4 โครงการ Data Center ขนาดใหญ่ เม็ดเงินลงทุนรวม 1 แสนลบ. และเห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุน เช่น จะต้องมีการจ้างงานคนไทยไม่น้อยกว่า 50% ภายใน 3 ปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี แลกกับสิทธิ์ยกเว้นภาษี

• กกพ. เปิดให้รับฟังความคิดเห็นสำหรับค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2569 ทั้งหมด 2 กรณี คือ 4.58 และ 3.94 บาท/หน่วย โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นระหว่างวันที่ 10-23 พ.ย. 2568 มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า มีความเป็นไปได้ที่ค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 3.94 บาท/หน่วย เทียบเท่ากับค่าไฟฟ้าในงวดปัจจุบัน 

• วุฒิสภาสหรัฐฯ เริ่มลงมติข้อตกลงยุติการปิดหน่วยงานราชการ ขณะที่ประธานสภาผู้แทนฯ ไมค์ จอห์นสัน เรียกสมาชิกกลับวอชิงตันเพื่อเตรียมลงมติ หากร่างผ่านวุฒิสภา จะส่งให้ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อยุติการปิดหน่วยงานทันที

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1285-1345 จุด หลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบ 3Q68 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector ที่คาดว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัว รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล แนะนำติดตามการปรับตัวลงของดัชนีมาที่กรอบล่าง 1285 หากหลุดต่ำกว่าจะมีความเสี่ยงของการลงรอบใหม่ในทางเทคนิค ขณะที่ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) การปิดหน่วยงานของราชการสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อทำระยะเวลาที่ยาวนานสุดครั้งใหม่ 2) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญทั้งภาคแรงงานและเงินเฟ้อ หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิดได้ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 3) PMI ภาคการผลิตและยอดค้าปลีก ต.ค. ของจีนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าที่จะมีผลต่อจิตวิทยาและบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบเนื่องจากเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q68 “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 4Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ BCPG BEM BGRIM BJC MTC PTT

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 เติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY แนะนำ BGRIM GFPT MTC CPALL BEM และ 2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย  

Daily Top Picks

BAM: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาล บริษัทตั้งเป้าเพิ่ม JV AMC เพิ่ม 2 แห่ง คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเร่งตัวเพิ่มขึ้น QoQ ใน 4Q68 และคาดว่าจะเพิ่ม DPS จาก 0.35 บาท ในปี 2567 เป็น 0.50 บาท (อัตราการจ่ายเงินปันผล 72%) ในปี 2568 เป้าหมายระยะสั้นที่ 7.20 บาท 

CENTEL: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐบาล ผลประกอบการมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q68 และกำไร 3Q68 คาดมีโอกาสฟื้นตัว +15%QoQ และฟื้นตัวต่อเนื่องถึง 1Q69 จากโรงแรมมัลดีฟส์ที่เข้าสู่ High Season Valuation ยังไม่แพง PER ที่ -1SD เป้าหมายระยะสั้นที่ 34.75 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ย. 2568 เวลา : 11:43:34
13-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท / ดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่ง 97.3 ดอลลาร์ รับบอนด์ยีลด์ร่วง-ชัตดาวน์ใกล้ยุติ

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (13 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 32.36 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (13 พ.ย. 68) พุ่งขึ้น 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,050 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (13 พ.ย.68) บวก 3.83 จุด ดัชนี 1,288.64 จุด

10. ตลาดหุ้นปิด (12 พ.ย.68) ลบ 15.66 จุด ดัชนี 1,284.81 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 พ.ย.68) ลบ 7.81 จุด ดัชนี 1,292.66 จุด

12. MTS Gold ราคาทองประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,070-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,150-4,200 เหรียญ

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (12 พ.ย. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,250 บาท

14. พยากรณ์อากาศวันนี้ (12 พ.ย.68) ลมหนาวเยือนภาคอีสาน อุณหภูมิลด 1-2 องศา ยอดดอย 10 องศา,ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนบางแห่ง 20% กทม. 30% ภาคตะวันออก 40% ภาคใต้ 30-40%

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (11 พ.ย.68) พุ่ง 559.33 จุด ขานรับชัตดาวน์ใกล้ยุติ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 13, 2025, 3:45 pm