เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "พักสั้น.....อย่าหลุด 1298"


คาดตลาดแกว่งรอเบรก นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิต่อในระดับที่เพิ่มขึ้น 2.4 พันล้านบาท ตลาดทดสอบบริเวณ 1300 เป็นวันที่ 2 การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ มีโอกาสสิ้นสุด แต่ไม่ได้หนุน SET นัก วุฒิสภาผ่านร่างได้รอส่งให้สภาล่างที่เสียงส่วนใหญ่เป็นของฝั่งรีพลับบริกันในวันพฤหัสบดีนี้ เทคนิคดัชนีลงทดสอบ 1300-1298 ต้องไม่หลุดต่ำกว่า หากลงหลุดต่ำกว่าคาดลงทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 1285 ส่วนการขึ้นมีแนวต้าน 1310/1315 ยืนได้จึงจะกลับมาแกว่งขึ้น 

ประเด็นสำคัญ

• กกพ. เผยความคืบหน้าโครงการ Direct PPA อยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ การทบทวนรายละเอียดเพื่อเตรียมประกาศหลักเกณฑ์, การกำหนดอัตราซื้อขายไฟฟ้า และประเด็นด้านเทคนิคเกี่ยวกับระบบสายส่ง คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้อัตราค่าไฟฟ้าจะชัดเจนและจะสามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นปี 2568

• จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยสัปดาห์ก่อนจำนวน 698,389 คน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 8.4%WoW หนุนจากกลุ่ม นทท. ระยะใกล้ (มาเลเซีย จีน อินเดีย) และไกล (สหรัฐฯ รัสเซีย ยุโรป) หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน สะท้อนโมเมนตัมบวกต่อเนื่องของฤดูกาลท่องเที่ยวในปีนี้ ส่วนจำนวน นทท. สะสมทั้งปี 2568 แตะ 27,587,845 คน ลดลง 7.1%YoY

• ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงช่วง 9M68 ที่ 153.95 ล้านลิตร/วัน ลดลง 0.7%YoY จากการบริโภคดีเซลที่ลดลง 2.4%YoY ขณะที่การบริโภคเบนซินและน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น 1.3%YoY และ 8.4%YoY

• ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับขึ้น 1.80% ตามราคาน้ำมันสำเร็จรูป โดยเฉพาะความต้องการดีเซลที่สูงในช่วงฤดูหนาวของยุโรปและผลกระทบจากโรงกลั่นอินเดียและจีนชะลอนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซีย มองกลุ่มโรงกลั่น (TOP SPRC) มีความน่าสนใจและได้ประโยชน์จากส่วนต่างน้ำมันสำเร็จรูปที่แข็งแกร่ง

• บริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น Softbank เผยว่าได้ขายหุ้น Nvidia ทั้งหมดจำนวน 32.1 ล้านหุ้นใน ต.ค. 2568 มูลค่ารวม 5.83 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงหุ้นบางส่วนใน T-Mobile ทั้งนี้ตลาดคาดว่า Softbank เตรียมเงินทุนดังกล่าวสำหรับการลงทุนครั้งใหญ่ในบริษัท OpenAI ที่เป็นผู้สร้าง ChatGPT

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1285-1345 จุด หลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบ 3Q68 ของ บจ. กลุ่ม Real Sector ที่คาดว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัว รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล แนะนำติดตามการปรับตัวลงของดัชนีมาที่กรอบล่าง 1285 หากหลุดต่ำกว่าจะมีความเสี่ยงของการลงรอบใหม่ในทางเทคนิค ขณะที่ปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) การปิดหน่วยงานของราชการสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อทำระยะเวลาที่ยาวนานสุดครั้งใหม่ 2) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญทั้งภาคแรงงานและเงินเฟ้อ หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิดได้ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 3) PMI ภาคการผลิตและยอดค้าปลีก ต.ค. ของจีนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าที่จะมีผลต่อจิตวิทยาและบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบเนื่องจากเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q68 “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 4Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ BCPG BEM BGRIM MTC PTT

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 3Q68 เติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY แนะนำ BGRIM GFPT MTC CPALL BEM และ 2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย  

Daily Top Picks

MTC: มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นจากกำไร 3Q68 ที่ออกมาแข็งแกร่งและคาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งใน 4Q68 และปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่ม จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อและแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ธ.ค. ขณะที่ Valuation น่าสนใจมี PEG เพียง 0.67 เท่า เป้าหมายระยะสั้น 41 บาท

TOP: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นและใน 4Q68 คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นต่อ QoQ จาก CDU-3 กลับมาเดินเครื่อง การใช้อัตรากำลังการกลั่นที่สูงขึ้นและส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลแข็งแกร่งหนุน ส่วนแผนทำ Asset Monetization จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 37.50 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 พ.ย. 2568 เวลา : 13:43:24
13-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท / ดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่ง 97.3 ดอลลาร์ รับบอนด์ยีลด์ร่วง-ชัตดาวน์ใกล้ยุติ

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (13 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 32.36 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (13 พ.ย. 68) พุ่งขึ้น 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,050 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (13 พ.ย.68) บวก 3.83 จุด ดัชนี 1,288.64 จุด

10. ตลาดหุ้นปิด (12 พ.ย.68) ลบ 15.66 จุด ดัชนี 1,284.81 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 พ.ย.68) ลบ 7.81 จุด ดัชนี 1,292.66 จุด

12. MTS Gold ราคาทองประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,070-4,100 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,150-4,200 เหรียญ

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (12 พ.ย. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,250 บาท

14. พยากรณ์อากาศวันนี้ (12 พ.ย.68) ลมหนาวเยือนภาคอีสาน อุณหภูมิลด 1-2 องศา ยอดดอย 10 องศา,ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนบางแห่ง 20% กทม. 30% ภาคตะวันออก 40% ภาคใต้ 30-40%

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (11 พ.ย.68) พุ่ง 559.33 จุด ขานรับชัตดาวน์ใกล้ยุติ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 13, 2025, 3:46 pm