
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังว่า การประชุมแผนการคลังวันนี้สำคัญมาก เนื่องจากประเทศไทยถูกปรับลดมุมมองจาก Stable เป็น Negative จากสถาบันจัดอันดับเครดิต (Credit Rating Agencies) ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับวินัยการคลังเป็นอย่างมาก ภายใต้นโยบาย Quick Big Win 5 เสาหลัก 1 ฐานราก ซึ่ง “ฐานราก” นี้คือการรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ โดยรัฐบาลต้องการให้แผนการคลังระยะปานกลาง (MTFF) เป็นการส่งสัญญาณความมุ่งมั่นด้านวินัยการคลังที่น่าเชื่อถือผ่าน 3 แนวทางหลัก
1) การกำหนดแนวทางการจัดการด้านการคลังทั้งด้านรายได้ รายจ่าย และหนี้สินให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
2) การปรับปรุงและเพิ่มกฎเกณฑ์การคลัง รวมถึงการยกระดับความโปร่งใสเกี่ยวกับต้นทุนการคลังต่างๆ รวมถึงรายได้สูญเสียจากสิทธิประโยชน์ภาษีต่าง ๆ เพื่อทำให้เราสามารถบังคับวินัยการคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) การวางแนวทางกำกับการดำเนินมาตรการกึ่งการคลังตามมาตรา 28 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เพื่อเพิ่มความชัดเจนของการจัดการภาระการคลัง
“แนวทางทั้งหมดนี้มีเป้าหมายร่วมกันคือ สร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันจัดอันดับเครดิตและสาธารณชนมั่นใจว่าประเทศไทยสามารถปรับลดดุลการคลังสู่ระดับ 3% ของ GDP ภายในปี 2572 และยังสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตด้านอย่างยั่งยืน พร้อมกับเป็นส่วนสำคัญของการวางรากฐานการเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในตอนท้าย
ข่าวเด่น