หุ้นทอง
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 68 กำไรสุทธิ 604.9 ล้านบาท เติบโต 78.7%



 
นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“MRDIYT”) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 มีรายได้เพิ่มขึ้น 25.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้รวมอยู่ที่ 4,924.3 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 78.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีผลกำไรรวม 604.9 ล้านบาท การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และความมุ่งมั่นในการส่งมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าชาวไทย ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย

 
การขยายสาขาทั่วประเทศไทยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2568 มีจำนวนสาขาทั้งหมด 1,072 สาขา ขณะที่ปริมาณการซื้อขายสินค้าตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงสิ้นเดือนกันยายน มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 87.1 ล้านครั้ง สะท้อนถึงจำนวนผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการในร้านที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดที่ครองใจผู้บริโภค โดยปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มประเภทสินค้าประมาณ 16,000 รายการ มีการแนะนำสินค้าใหม่ประมาณ 500 รายการในแต่ละเดือน เพื่อให้มั่นใจว่ามีรายการสินค้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคชาวไทย

 
"ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว เราได้ขยายการเข้าถึงของเราครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาปรับเปลี่ยนความหลากหลายของสินค้า และยกระดับประสบการณ์การชอปปิ้งให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยยังคงยึดมั่นในแนวคิด "ราคาถูกคุ้มเสมอ" (Always Low Prices) ซึ่งส่งผลให้ยอดขายจากสาขาเดิมเติบโต 2.5% ในไตรมาส 3 ปี 2568” นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย กล่าว

นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ตอกย้ำถึงพื้นฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท และเพื่อแบ่งปันผลประกอบการที่เติบโตนี้ บริษัทยินดีที่จะประกาศการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 301 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 50% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ MRDIYT มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 40% ของกำไรสุทธิ

 
"เราให้ความสำคัญไม่เพียงแค่การขยายสาขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่นำเสนอ พร้อมไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ยังตอกย้ำถึงกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาวและการเป็นผู้นำตลาดของบริษัทได้เป็นอย่างดี" นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 พ.ย. 2568 เวลา : 18:57:52
15-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

6. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 พ.ย.68) ร่วงลง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,950 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (14 พ.ย.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนี 1,280.09 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท / ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (13 พ.ย.68) บวก 2.63 จุด ดัชนี 1,287.44 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 15, 2025, 1:09 pm