หุ้นทอง
SAWAD โชว์ผลงาน 9 เดือน ปี 2568 รายได้รวม 14,463 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ - เติบโตอย่างมีคุณภาพ- เคียงข้างคนไทยสู่บริการทางการเงินที่ยั่งยืน


บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยชั้นนำของประเทศ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68  เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้รวม 4,889 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,405 ล้านบาท  สะท้อนศักยภาพในการบริหารพอร์ตสินเชื่อ  ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Digital Transformation มาใช้เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจ เพิ่มรายได้และสร้างกำไรขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

 
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,889 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,405  ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 14,463  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,860 ล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการสินเชื่อที่มั่นคงในกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท  และศักยภาพในการบริหารพอร์ตสินเชื่อควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก ทำให้สามารถควบคุมอัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับเหมาะสม ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ภายใต้โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบและรัดกุม 

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้หลักยังมาจากกลุ่มสินเชื่อมีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนซึ่งเป็นฐานธุรกิจสำคัญของกลุ่มบริษัท พร้อมทั้งขยายบริการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรายได้และรักษาคุณภาพพอร์ตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากฐานลูกค้าสินเชื่อมีหลักประกัน และลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” โดยบริษัทรวบรวมกรมธรรม์ประกันภัยที่หลากหลาย สามารถคำนวณเบี้ยประกันให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่นำเสนอแบบเฉพาะเจาะจง สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม  อีกทั้งยังพัฒนาแอปพลิเคชันให้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อประกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจประกันภัยเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง” นางสาวธิดา กล่าว

สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ไตรมาสที่ 4 ปี 2568 บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญทั้งในด้านคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ ผ่านกระบวนการคัดกรองลูกค้าและติดตามหนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาเครื่องมือด้านข้อมูลและระบบติดตามลูกหนี้ ในด้านการปรับพอร์ตสินเชื่อสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง โดยบริษัทฯ เดินหน้าปรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและผลตอบแทนของแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยเน้นสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทน (Yield) สูง เพื่อรักษาเสถียรภาพของกำไรและรองรับต้นทุนทางธุรกิจที่อาจผันผวน  ขณะเดียวกันบริษัทฯ อยู่ระหว่าง ปรับโครงสร้างเครือข่ายสาขา โดยขยายสาขาในพื้นที่ศักยภาพสูง และปรับลดขนาดสาขาที่มีประสิทธิภาพต่ำ พร้อมต่อยอดกลยุทธ์ “สาขาออนไลน์” เพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล  สำหรับด้าน Digital Transformation ในโครงการ e-KYC และ Mobile Lending Platform มีความคืบหน้าเตรียมเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 4/2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ลดระยะเวลาอนุมัติสินเชื่อ และยกระดับการบริหารข้อมูลลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อ การปฏิบัติตามกฎระเบียบและการคุ้มครองลูกหนี้ โดยติดตามความเคลื่อนไหวของเกณฑ์กำกับใหม่จากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแนวทางกำกับธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2569 เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านระบบงาน การรายงาน และการบริหารความเสี่ยง เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านการออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 3/2568 มูลค่า 3,150 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุนทั้งรายใหญ่และสถาบัน เงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปชำระคืนหุ้นกู้เดิมและขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ ตอกย้ำฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจในระยะยาว

SAWAD มุ่งดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความโปร่งใส การบริหารจัดการอย่างรอบคอบ และมีธรรมาภิบาลทางการเงินที่เข้มแข็ง ภายใต้แนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) และเดินหน้ากลยุทธ์ “เติบโตอย่างมีคุณภาพ” เพื่อเคียงข้างและสร้างโอกาสทางการเงินอย่างทั่วถึงและยั่งยืนให้กับคนไทย” นางสาวธิดา กล่าวปิดท้าย

LastUpdate 14/11/2568 20:06:00 โดย : Admin
15-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

6. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 พ.ย.68) ร่วงลง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,950 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (14 พ.ย.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนี 1,280.09 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท / ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (13 พ.ย.68) บวก 2.63 จุด ดัชนี 1,287.44 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 15, 2025, 1:12 pm