หุ้นทอง
UAC โชว์ 9 เดือนแรกปี 68 รับแรงหนุนจากพลังงาน-ปิโตรเลียม ตอกย้ำความแข็งแกร่งเงินสด 364.83 ล้านบาท ขณะที่ D/E ลดเหลือ 0.67 เท่า


บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) รายงานผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,247.41 ล้านบาท กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้น 53.11 ล้านบาท และ EBITDA 177.86 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจพลังงานและปิโตรเลียม แม้เผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มสูงขึ้นก็ตาม พร้อมยืนยันรักษากระแสเงินสดในกระเป๋าไว้อย่างแข็งแกร่ง 364.83 ล้านบาท และ D/E ลดเหลือ 0.67 เท่า 

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC”  เปิดเผยว่า แม้ภาวะตลาดโลกยังผันผวนจากนโยบาย Trump 2.0 และผลของ US Tariffs แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์บริหารต้นทุนและเสริมประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้ธุรกิจหลักอย่างกลุ่ม Trading มีกำไรอยู่ในระดับ 118.99 ล้านบาท พร้อมประกาศตอกย้ำฐานะทางการเงินยังแกร่ง โดยมีสภาพคล่องเงินสดกว่า 364.83 ล้านบาท ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน ( D/E Ratio) ลดเหลือเพียง 0.67 เท่า แม้ต้องเจอแรงกดดันวิกฤตเศรษฐกิจโลกฉุดภาพรวมธุรกิจลดลง

ด้านกลุ่ม Manufacturing – Petroleum และ Manufacturing – Energy มีรายได้เพิ่มขึ้น 2.97% และ 17.97% ตามลำดับ โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจปิโตรเลียมที่สามารถผลิตน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นระดับ 380 BPD จากการทำ Workover หลุมผลิตในพื้นที่ L11/43 รวมถึงราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/2568 พร้อมรับรู้รายได้จากโรงงานผลิต RDF3 - CYC ที่ประเทศอินโดนีเซียอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บวกกับโรงงาน PPP ที่ได้รับ Associated Gas เพิ่มขึ้นจากแหล่ง L11/43 ขณะที่โรงไฟฟ้า MT และโรงไฟฟ้า PPM ยังคงมีรายได้ต่ำกว่าแผนจากการประสบปัญหาอุทกภัย และวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อการผลิต ซึ่ง UAC เองก็ได้เร่งจัดหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต

ในส่วนฐานะการเงิน UAC ยังคงแข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 364.83 ล้านบาท ที่สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการทางการเงินที่มั่นคงและต่อเนื่อง พร้อมการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ลดลงเหลือ 0.67 เท่า ในงบรวม และ 0.20 เท่า ในงบเฉพาะกิจการ ต่ำกว่ากรอบนโยบายที่กำหนดไว้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 พ.ย. 2568 เวลา : 20:12:28
15-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

6. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 พ.ย.68) ร่วงลง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,950 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (14 พ.ย.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนี 1,280.09 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท / ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (13 พ.ย.68) บวก 2.63 จุด ดัชนี 1,287.44 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 15, 2025, 1:12 pm