เอสเอ็มอี
บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้รับการจัดอันดับ Mercer FundWatch Rating ระดับ 4 ดาว จากกองทุน AIA Thai Equity และ ESG Rating ระดับ ESG3 สะท้อนการบริหารจัดการลงทุนเชิงรุกและการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม


บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) (“บริษัท”) เข้าร่วมโครงการประเมินความสามารถของกองทุนตราสารทุนไทยในปี 2565 โดยบริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (“Mercer”) ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดทำโครงการประเมินกองทุนไทยจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (“CMDF”) ในการนี้ กองทุน AIA Thai Equity ของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้รับการจัดอันดับ Mercer FundWatch Rating ที่ระดับ 4 ดาว และ ESG Rating ที่ระดับ ESG3 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกองทุน AIA Thai Equity ของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้รับการประเมินว่ามีโอกาส “สูงกว่าค่าเฉลี่ย” ของการที่ผลตอบแทนหลังหักค่าธรรมเนียมของกองทุนจะมากกว่าดัชนีชี้วัด* ถือเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของการบริหารจัดการลงทุนเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงที่มีความรัดกุม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

 
นางจินตนา เมฆินทรางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมเสวนาในงานสัมมนา “Future of Investing: Themes and Opportunities” ซึ่งจัดขึ้นโดยกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน ร่วมกับสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 โดยกล่าวว่า “บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) พร้อมกับทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์เฉลี่ยในการลงทุนมานานกว่า 18 ปี มีเป้าหมายหลัก คือการบริหารกองทุนรวมเพื่อตอบโจทย์ เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สำคัญในการวางแผนทางการเงินในวันนี้และอนาคต”

กระบวนการลงทุนของเอไอเอ เน้นให้ความสำคัญกับเป้าหมายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากการคัดเลือกหุ้นคุณภาพ มีอัตราการเติบโตที่ดี ในขณะเดียวกัน ยังหาโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มในระยะสั้นจากความผันผวนของตลาดในการปรับพอร์ตการลงทุนจากการที่ราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง หน้าที่ของผู้จัดการกองทุนคือการพยายามปรับสมดุลเป้าหมายและมุมมองการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้าในการลงทุน” นางจินตนา กล่าวสรุป
 
 
ทั้งนี้ เอไอเอและกลุ่มการลงทุนของเอไอเอให้ความสำคัญกับกระบวนการการลงทุน และการติดตามวิธีการลงทุนของทีมการลงทุนเป็นประจำสม่ำเสมอ ซึ่งการมีโอกาสเข้าร่วมโครงการ Mercer’s Fund Rating ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้ได้ทบทวนกระบวนการลงทุนอีกครั้งผ่านหลักเกณฑ์และกระบวนการของ Mercer ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญภายนอก โดยเอไอเอเป็นองค์กรที่พร้อมปรับตัวและพัฒนาศักยภาพอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

สำหรับผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล Mercer FundWatch Report ของกองทุน AIA Thai Equity ฉบับเต็มได้ทางเว็บไซต์ของ Settrade: https://www.settrade.com/th/research/analyst-research/main?category=mutualfund&source=Mercer&period=1Y หรือทางเว็บไซต์ของ Mercer FundWatch: https://www.mercerfundwatch.com/

หมายเหตุ

*คำจำกัดความข้างต้นใช้กับประเภทของกองทุนส่วนใหญ่ที่วิจัยโดย Mercer สำหรับกองทุนบางประเภท มาตรการจัดอันดับจะสะท้อนถึงระดับความเชื่อมั่นของMercerในความสามารถของผู้จัดการกองทุนในการบรรลุเป้าหมายที่ระบุไว้ของกองทุน การประเมินของ Mercer ไม่ได้รับรองผลการดำเนินงานในอนาคตและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน

คำเตือน

- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนของแต่ละกองทุน และข้อมูลอื่นๆ ในเว็บไซต์ www.aiaim.co.th อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

- การลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่างๆ หรือขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ก่อนการตัดสินใจลงทุน

- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

- ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

คำสงวนสิทธิ์

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด

- เอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอ ฉบับนี้ ได้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ในการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน และตอบสนองความต้องการของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ไม่อาจตีความได้ว่าเป็นคำเสนอ, คำแนะนำ หรือคำชักชวนให้เข้าทำธุรกรรมหรือเป็นการยอมผูกพันตามธุรกรรมเพื่อป้องกันความเสี่ยง, การซื้อขาย หรือกลยุทธ์การลงทุนเกี่ยวกับหลักทรัพย์หรือเครื่องมือทางการเงินอื่นใดซึ่งออกหรือบริหารจัดการโดยบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (“บลจ.เอไอเอ”) หรือบริษัทในเครือ (“กลุ่มบริษัท เอไอเอ”) ที่อยู่ในเขตอำนาจตามกฎหมายของประเทศซึ่งไม่ได้รับมอบอำนาจให้ทำข้อเสนอดังกล่าวต่อบุคคล ไม่มีส่วนใดๆ ในเอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอฉบับนี้ จะถูกตีความได้ว่าเป็นคำแนะนำในการลงทุน ภาษีอากร กฎหมาย หรือคำแนะนำอื่น ๆ การอ้างอิงถึงหลักทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงที่ปรากฏในเอกสาร ทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ซึ่งปรัชญาในการลงทุนของเราเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำจากกลุ่มบริษัทเอไอเอ

- ข้อมูลที่อยู่ในเอกสารฉบับนี้ ไม่ควรใช้เป็นหลักเพื่อการตัดสินใจลงทุน เอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอ ฉบับนี้ ไม่ใช่เอกสารงานวิจัยและไม่ได้จัดทำขึ้นตามกฎหมายเพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในการวิจัยเกี่ยวกับการลงทุน ข้อคิดเห็นและการกล่าวถึงหลักทรัพย์รายตัว เป็นไปเพื่อยกตัวอย่างประกอบการอธิบายเท่านั้น และไม่ได้เป็นตัวแทนของความเห็นจากทุกหน่วยงานในกลุ่มบริษัทเอไอเอ นอกจากนี้ บลจ.เอไอเอ ไม่รับรองหรือการรับประกันความน่าเชื่อถือ, ความถูกต้อง และความครบถ้วนของข้อมูลแต่อย่างใด ความคิดเห็น, การคาดคะเน, การประมาณการ และข้อมูลอื่น ๆ ในเอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอ ฉบับนี้ เป็นของกลุ่มบริษัทเอไอเอ นับแต่วันที่ที่ลงในเอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอฉบับนี้ และอาจถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า กลุ่มบริษัท เอไอเอ อาจมีส่วนได้เสียในหลักทรัพย์หรือตราสารที่กล่าวถึงในเอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอฉบับนี้ การคาดคะเนใดๆ หรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตหรือผลการดำเนินงานของประเทศ, ตลาด, หรือบริษัทต่าง ๆ ไม่ได้แสดงถึงหรืออาจแตกต่างจากเหตุการณ์หรือผลที่เกิดขึ้นจริง

- ผลการดำเนินงานในอดีต และแนวโน้มหรือการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจและตลาดใด ๆ ไม่ได้แสดงถึงผลการดำเนินงานในอนาคตของแผนการหรือสินทรัพย์ที่ลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียเงินต้น

- บลจ.เอไอเอ และกลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่และพนักงานของบริษัท จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ รวมถึงการสูญเสียผลกำไร ไม่ว่าทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่เกิดขึ้นจากการใช้หรือการอ้างอิง ข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากการประมาทเลินเล่อของของบลจ.เอไอเอหรือไม่ก็ตาม

- ท่านสามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาการลงทุนก่อนทำการตัดสินใจลงทุน รวมถึงพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบถึงรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับท่าน อาทิ ทักษะด้านการลงทุน เงินทุน รูปแบบการลงทุนทั้งหมด

- ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ จะต้องไม่ถูกเปิดเผย ใช้ หรือเผยแพร่ ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน รวมถึงต้องไม่ถูกทำซ้ำ คัดลอก หรือทำให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลได้

- เอกสาร/เอกสารประกอบการนำเสนอ ฉบับนี้ อาจจะถูกใช้ และ/หรือ รับมอบ ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับในเขตอำนาจตามกฎหมายของประเทศของท่าน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 พ.ค. 2566 เวลา : 11:37:21
21-11-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (21 พ.ย.67) ลบ 22.02 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,440.46 จุด

2. ประกาศ กปน.: 26 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเพชรเกษม

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 พ.ย.67) ลบ 18.69 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,443.79 จุด

4. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับ 2,630 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 2,675 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) พุ่งขึ้น 20.70 เหรียญ เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน หนุนแรงซื้อทอง

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.67) บวก 139.53 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการ Nvidia

7. มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อากาศเย็นตอนเช้า "ยอดดอย" อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศา "ยอดภู" 13 องศา ภาคใต้ ฝน 60-70%

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (21 พ.ย. 67) ลบ 16.23 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,446.25 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (21 พ.ย. 67) พุ่งขึ้น 400 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 44,000 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (21 พ.ย.67) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (20 พ.ย.67) บวก 2.37 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,462.48 จุด

13. ประกาศ กปน.: 25 พ.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนรัชดาภิเษก-รามอินทรา

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (20 พ.ย.67) ลบ 3.23 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,456.88 จุด

15. MTS Gold คาดมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,620 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,655 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 21, 2024, 9:57 pm