กองทุนรวม
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิดตัวกองทุน KKP SIB-H และ KKP SIB-UH ขยายโอกาสสร้างผลตอบแทนให้พอร์ตกับตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในสหรัฐ เสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 8 - 16 ตุลาคมนี้


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (บลจ.เกียรตินาคินภัทร) มองเห็นโอกาสการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ช่วยในการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุน จึงเปิดเสนอขาย 2 กองทุนใหม่ล่าสุด ได้แก่ กองทุนเปิดเคเคพี สตราทิจิค อินคัม บอนด์ เฮดจ์ (KKP SIB-H) และกองทุนเปิดเคเคพี สตราทิจิค อินคัม บอนด์ อันเฮดจ์ (KKP SIB-UH) ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Neuberger Berman Strategic Income Fund ซึ่งมุ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทหรือรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ด้วยกลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบเชิงรุก (Active Management) โดยเปิดเสนอขายทั้งประเภทป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด (HEDGED) และไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (UNHEDGED) เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุน ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท กำหนดการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 8 – 16 ตุลาคม 2567

นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า แม้ FED จะเริ่มวัฎจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว แต่การปรับลดคาดว่าจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยประมาณการอัตราดอกเบี้ยของ FED (FED Dot Plot) ชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ในช่วง 4.25%-4.5% ในสิ้นปีนี้และช่วง 3.25%-3.5% ในปีหน้า ตามคาดการณ์เศรษฐกิจเติบโตลดลงแต่ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย (Soft landing) ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปีในปัจจุบันที่ 3.74% เป็นระดับที่ไม่ต่ำเกินไป ทำให้มองว่าการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศมีความน่าสนใจทั้งในเรื่องอัตราดอกเบี้ยจากการลงทุนและการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว บลจ.เกียรตินาคินภัทร จึงได้นำเสนอกองทุน KKP SIB-H และ KKP SIB-UH แก่นักลงทุนไทยเพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ

สำหรับ กองทุน KKP SIB-H และ KKP SIB-UH ระดับความเสี่ยง 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุนหลัก Neuberger Berman Strategic Income Fund ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนหลักจะลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทหรือรัฐบาล ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทหรือรัฐบาลนอกสหรัฐอเมริกา ความน่าสนใจของกองทุนหลักคือ เป็นกองทุน Multi-Sector Bond ที่ลงทุนได้แบบยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนอายุเฉลี่ยของตราสารและอุตสาหกรรมได้ตามสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้สามารถลงทุนในตราสารหนี้ได้หลากหลายประเภท รวมถึงมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานเฉลี่ยกว่า 25 ปี

กองทุน KKP SIB-H จะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ส่วนกองทุน KKP SIB-UH จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
 
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 305 9559 หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง
 
ข้อมูลกองทุน KKP SIB-H และ KKP SIB-UH :
เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่าง วันที่ 8-16 ตุลาคม 2567
มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อครั้งแรก 1,000 บาท ครั้งถัดไป 1,000 บาท
 
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุน KKP SIB-H จะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ) กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
กองทุน KKP SIB-UH จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดังนั้น กองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นและข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลกองทุนรวม https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ต.ค. 2567 เวลา : 12:41:14
22-10-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (21 ต.ค.67) ร่วง 344.31 จุด เหตุบอนด์ยีลด์พุ่งทุบตลาด

2. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (21 ต.ค.67) บวก 8.90 ดอลล์ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

3. ตลาดหุ้นไทยเปิด (22 ต.ค.67) ลบ 2.29 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,485.81 จุด

4. ทองเปิดตลาดวันนี้ (22 ต.ค.67) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 43,750 บาท

5. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ส่งผล "กรุงเทพปริมณฑล" ฝนฟ้าคะนอง 70% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 20%

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.35-33.60 บาท/ดอลลาร์

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 ต.ค.67) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์

8. ตลาดหุ้นปิด (21 ต.ค.67) ลบ 1.08 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,488.74 จุด

9. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำตลาดโลกจะมีกรอบแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 2,710 เหรียญ และแนวรับระยะกลางที่ระดับ 2,700 เหรียญ

10. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 ต.ค.67) ลบ 3.01 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,486.81 จุด

11. ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักใน "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก" 70% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน 60% ภาคใต้ 30-40%

12. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.25 บาท/ดอลลาร์

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (21 ต.ค. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 43,250 บาท

14. ตลาดหุ้นไทยเปิด (21 ต.ค.67) บวก 0.85 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,490.67 จุด

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (21 ต.ค.67) "แข็งค่าขึ้น" ที่ระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 22, 2024, 12:37 pm